(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตปท. กังวลสงครามการค้าทวีความรุนแรง, ราคาน้ำมันร่วงกดดันกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 6, 2019 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้าเฉลี่ย 1.5-2% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ร่วงแรงกว่า 700 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นไปตามการตอบโต้ของจีนหลังจากที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น ขณะที่จีนปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าสุดในรอบ 11ปี และให้องค์กรรัฐฯของจีนหยุดการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ

ทางด้านสหรัฐฯก็ออกมาว่าจีนปั่นค่าเงิน ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าส่งออกของจีนถูกลง และสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯแพงขึ้น แต่การที่เงินหยวนอ่อนค่าส่งผลให้เงินสกุลอื่นในเอเชียจะอ่อนค่าตามด้วย ซึ่งจะไปกดดัน Fund Flow ให้ไหลออกได้ จึงคาดว่านักลงทุนต่างชาติคงจะขายต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ร่วงแรง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 3% ทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมีได้ อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 ออกมายังไม่ดี

พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,672 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,717.74 จุด ดิ่งลง 767.27 จุด (-2.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,844.74 จุด ลดลง 87.31 จุด (-2.98%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,726.04 จุด ลดลง 278.03 จุด (-3.47%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 394.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 44.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 678.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 118.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 46.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 34.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 17.57 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 57.33 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ส.ค.62) 1,665.99 จุด ลดลง 18.72 จุด (-1.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,672.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ส.ค.62) ปิดที่ 54.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ส.ค.62) ที่ 6.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.81 ตลาดเกาะติดประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน-จับตาผลประชุมกนง. มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.75-30.90
  • ต่างชาติแห่ชอร์ตดัชนี เซ็ท 50 ฟิวเจอร์ส เผยแค่ 3 วันทำการในเดือนส.ค. ยอดชอร์ตพุ่งเฉียด 5 หมื่นสัญญา กดดันหุ้นไทยส่อร่วงต่อเนื่อง ขณะดัชนีตลาดหุ้น วานนี้ รูดหนัก 18 จุด "ไพบูลย์" ชี้สงครามการค้ากดดัน แต่เชื่อส่งผลกระทบแค่ช่วงสั้น
  • ทิสโก้ประเมินเศรษฐกิจโลกเลวร้าย เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทุบหุ้นทั่วโลก-หุ้นไทยดิ่ง คาด 1,200 จุด กรุงศรี ออโต้ ชี้เศรษฐกิจผันผวน ฉุดยอดขาย "รถจักรยานยนต์" ครึ่งแรกปี 62 อยู่ที่ 894,000 คัน ลดลง 4% ดันเป้าสินเชื่อใหม่แตะ 20,000 ล้านบาท โต 13%
  • รฟม.-กทม.มั่นใจ MOU รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ปลายปี 63 สั่งการบ้าน 2 หน่วยงานไปเคลียร์ข้อกฎหมาย-แผนโอนทรัพย์สินและหนี้ให้เรียบร้อย ก่อนทำการโอน มี.ค.-เม.ย.64
  • บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนครึ่งปีแรก 758 โครงการ มูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท ฟุ้งยอด FDI โต 4% ญี่ปุ่นยังครองแชมป์อันดับ 1
  • คลังระดมสมองทุกหน่วยงานในสังกัด ออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังปีนี้ขยายตัวได้เกิน 3% 'อุตตม' ย้ำทุกมาตรการต้องได้ผลจริง และช่วยเหลือทุกกลุ่มทั้งประชาชน มนุษย์เงินเดือน เกษตรกร เอสเอ็มอี พร้อมทบทวนแจกเงินเที่ยว 1,500 บาท และช็อปช่วยชาติ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • DOHOME (บมจ.ดูโฮม) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ โดยราคาขาย IPO ที่ 7.80 บาท/หุ้น ทั้งนี้ ตลาดฯจะแขวนป้าย ST หุ้น DOHOME ในช่วงซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินจำนวน 56.16 ล้านหุ้น เริ่ม 6 ส.ค.-4 ก.ย.2562 โดยบริษัทประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก ส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจ "ครบ ถูก ดี...ที่ดูโฮม" มีสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งบ้านที่ครบถ้วน หลากหลายกว่า 135,000 SKUs ในทุกระดับราคา เพื่อตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่ม ปัจจุบันดูโฮมเปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 11 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่ 9 สาขาและ Dohome To Go 2 สาขา รวมทั้งมีศูนย์กระจายสินค้าที่จังหวัดปทุมธานี
  • CHG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 2.6 บาท คาดผลกำไรใน Q2/62 จะเป็นจุดต่ำสุด (Bottom) ของปีนี้ และกำไรสุทธิใน H2/62 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาลจากรายได้ประกันสังคมที่ฟื้นตัว นอกจากนี้โรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง จะขาดทุนลดลงและคาดว่าจะเริ่มทำกำไรตั้งแต่ Q4/62
  • ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 220 บาท กำไรดีกว่าคาด 5% กำไรสุทธิ Q2/62 +2% Q-Q, -3% Y-Y เป็น 7.75 พันล้านบาท กำไรปกติ +7% Q-Q, +1% Y-Y เป็น 8 พันล้านบาท จาก ARPU ที่ปรับขึ้นแข็งแกร่งเพราะการแข่งขันลดลง แนวโน้ม H2/62 ดีต่อเพราะการหยุดบริการ 2G ทำให้ต้นทุนบางส่วนลดลง พร้อมปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 7% เป็น 32,321 ล้านบาท +9% Y-Y และรับปันผลงวด H1/62 ที่จ่าย 3.78 บ/หุ้น (yield 1.8%) XD 16 ส.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ