ORI คาดผลประกอบการ H2/62 ดีกว่า H1/62 หลังเตรียมโอนโครงการใหม่ต่อเนื่อง ตุน Backlog ในมือ 3.9 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 19, 2019 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังเตรียมโอนโครงการต่อเนื่อง ขณะที่การมีรัฐบาลใหม่เข้ามาผลักดันนโยบายต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเชื่อมั่นมากขึ้น หนุนให้เงินมีการหมุนเวียนไปยังหลายธุรกิจช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้มั่นใจปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 28,000 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 19,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นเดือน มิ.ย. มากกว่า 39,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงปี 65 รวมถึงการผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่จะช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทได้เปิดตัว 2 พันธมิตรใหม่ คือ บริษัท ดีดับเบิลยูจี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารงานขายอสังหาริมทรัพย์จากสิงคโปร์ ให้เป็นตัวแทนขายโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ต่าง ๆ ของบริษัทในตลาดต่างประเทศ และบริษัท เอสคอน เจแปน จำกัด จากญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนกันพัฒนาโครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ มูลค่าโครงการรวม 1,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 8 โครงการ มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาดวัยรุ่นแบรนด์ดิ ออริจิ้น และโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น รวม 3 โครงการ โครงการบ้านจัดสรรแบรนด์บริทาเนีย อีก 5 โครงการ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจโรงแรมที่จะเริ่มเปิดให้บริการ 2 แห่งในช่วงปลายปีนี้

พร้อมกันนี้บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างชัดเจน อาทิ การเปิดตัวคอนโดมิเนียมที่เน้นการออกแบบเพื่อคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

สำหรับธุรกิจโรงแรมในเดือน พ.ย. นี้จะเริ่มเปิดให้บริการ 2 แห่ง คือ ที่ทองหล่อ จำนวน 303 ห้อง และฮอลิเดย์อินน์ ศรีราชา จำนวน 363 ห้อง โดยตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้อื่น ๆ นอกจากอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 15% ในปี 66

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. บริษัทจะออกหุ้นกู้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ในเดือนก.ย.จะออกหุ้นกู้ 2,500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่อีก 1,500 ล้านบาท จะรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ