ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,633.62 จุด ลดลง 3.64 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 26,110.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,643.41 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,632.15 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ โดยเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง หลังจากที่ตลาดฯตอบรับปัจจัยบวกไปพอควรแล้ว ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ยังตอบรับการผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งบรรยากาศที่ผ่อนคลายก็อาจทำให้การเจรจาการค้าในวันข้างหน้าเป็นบวกได้มากขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนบ้านเราวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ซึ่งมีบางมาตรการอย่างเรื่องวีซ่า ยังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันอยู่ จึงต้องรอติดตามผลจะออกมาเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ให้ติดตามรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งก่อน ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ส่วนในวันศุกร์นี้ก็ให้ติดตามการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล จะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมาบ้าง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯยังมีความอ่อนไหวพอควร ส่วนหนึ่งขึ้นกับผลการประชุมครม.วันนี้ที่จะไม่แย่ลง พร้อมให้แนวรับ 1,630-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,255.03 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,089.05 ล้านบาท ปิดที่ 6.10 บาท ลดลง 0.15 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,085.57 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
STEC มูลค่าการซื้อขาย 865.51 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 729.11 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท