(เพิ่มเติม) 7UP คาดปี 62 พลิกกำไรรอบ 5 ปี รายได้แตะ 1.4 พันลบ.เล็งล้างขาดทุนสะสมปีหน้าหวังจ่ายปันผลปี 64

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 20, 2019 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) คาดว่าผลประกอบการปี 62 จะพลิกกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยน่าจะทำรายได้แตะ 1.4 พันล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมพิจารณาเสนอผู้ถือหุ้นล้างขาดทุนสะสมในปี 63 และหวังว่าจะจ่ายเงินปันผลได้ในปี 64 ขณะที่วางเป้ารายได้ปี 64 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดแตะ 4 พันล้านบาท หลังจากรับรู้ธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้าและธุรกิจกำจัดขยะอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ สำหรับธุรกิจเดินเรือนั้น บริษัทเตรียมซื้อเรือขนส่งสินค้า 5 ลำ ซึ่งจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปี 64 และคาดเริ่มเดินเรือลำแรกภายในเดือน ม.ค.63 โดยจะรับรู้รายได้ราว 900 ล้านบาท/ลำ/ปี

นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 7UP เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทเดินหน้าตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ คาดว่าผลประกอบการปี 62 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิครั้งแรกจากที่เคยขาดทุนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะแตะ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อนที่มีรายได้ 791 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 64 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือเพิ่มเป็น 4-4.3 พันล้านบาท โดยธุรกิจกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมจะกลายเป็นรายได้หลักสัดส่วน 31% ตามด้วย ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ สัดส่วน 27% ขณะที่สตาร์แก๊ส จำกัด จะลดลงเหลือ 24% ปัจจุบันสตาร์แก๊ส คิดเป็นรายได้หลักเกือบ 70% ของรายได้ทั้งหมดบริษัทประกอบธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน 6 สาขา ,ก๊าซ LPG 30 สาขาและก๊าซ NGV 2 สาขา

"แนวทางล้างขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันมีกว่า 1.3 พันล้านบาท ทีมผู้บริหาร 7UP มีความตั้งใจว่าจะนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในปี 63 โดยอาจใช้แนวทางลดทุนจดทะเบียนและกำไรจากผลการดำเนินงานมาล้างขาดทุนสะสม เพื่อเป้าหมายจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในปี 64"นายสิทธิชัย กล่าว

นายสิทธิชัย กล่าวว่า สำหรับธุรกิจที่จะผลักดันผลประกอบการในช่วงถัดไป ประกอบด้วย ธุรกิจจัดการและกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมผ่านบริษัท ยูนิเวอร์แซล เวสต์ แมเนจเม้นต์ ซึ่งเตรียมแผนลงทุนเตาเผาขยะอุตสาหกรรม ที่มีกำลังการเผาขยะอุตสาหกรรมขนาด 330 ตันต่อวัน คาดจะก่อสร้างเสร็จในช่วงปลายปี 64 โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,600 ล้านบาท แหล่งเงินทุนมาจากสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เตรียมเจรจารายละเอียดในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวสร้างรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี โดยในปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจรับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบการฝังกลบอยู่แล้ว มีรถบรรทุกที่วิ่งรับกากขยะอุตสาหกรรมจากโรงงานต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 34 คัน

ด้านธุรกิจบริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารชายฝั่งตะวันออกกับภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ผ่านบริษัท ซีฮอร์ส เฟอรี่ บริษัทเตรียมลงทุนในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวใช้เงินลงทุนราว 263 ล้านบาทในเฟสแรก แบ่งเป็น ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทร่วมในสัดส่วน 38% และใช้ลงทุนซื้อเรือขนส่งสินค้าลำแรก คาดจะเริ่มขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ช่วง ม.ค.63 โดยประเมินว่าจะรับรู้รายได้ 900 ล้านบาทต่อลำต่อปี ขณะที่ในเฟส 2 จะเริ่มสั่งซื้อเรือในไตรมาส 3/62 และมีแผนเพิ่มเป็น 5 ลำภายในสิ้นปี 64 ทั้งนี้ จะเริ่มให้บริการในเส้นทางแหลมฉบัง-ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเส้นทางแรก ก่อนจะเพิ่มให้บริการเส้นทาง สัตหีบ-ประจวบคีรีขันธ์ และชลบุรี-สงขลา ในระยะถัดไป

นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลในภาคใต้ผ่านบริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ล่าสุดบริษัทได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (PPA) จำนวน 2 โรง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าประชารัฐ แม่ลาน ในจังหวัดปัตตานี กำลังการผลิตไฟฟ้า 3 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐ บันนังสตา ในจังหวัดยะลา จำนวน 3 เมกกะวัตต์ ดำเนินการผ่านการลงทุนในบริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ECO) ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายกระแสไฟฟ้าได้ (COD) ภายในเดือน ธ.ค.63 ซึ่งทั้ง 2 โครงการบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 55% ทำให้รับรู้รายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี และมีกำไรประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกันมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้เพิ่มอีก 30 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการค้างท่ออยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในขั้นตอนต่อไป

นายสิทธิชัย กล่าวว่า ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อการเลี้ยงกุ้งผ่านบริษัท แซม วอเตอร์ซัพพลาย ล่าสุดได้เริ่มให้บริการในไทยไปแล้วในฟาร์มกุ้งของ CPF โดยเฟสแรกส่งน้ำ 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันไปแล้ว และเตรียมส่งมอบในเฟสที่สอง 14,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันในช่วงเดือน ก.ย.62 มีแผนขยายกำลังการบำบัดน้ำดังกล่าวเพิ่มขึ้นในปี 63

นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดหาติดตั้งเสาและพาดสายไฟเบอร์ออพติก ในประเทศ สปป.ลาว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างเฟสแรกติดตั้งเสา 146 กิโลเมตร และจะเริ่มเฟส2 ที่ 200 กิโลเมตรในช่วงปลายปี 62 อย่างไรก็ตาม มีแผนเพิ่มธุรกิจใหม่คือโครงการจัดการของเสียปรอทจากแท่นหลุมผลิตในอ่าวไทย ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

https://youtu.be/e5kQOu2dAT0


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ