(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: แรงขายทำกำไรรั้งสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 5.34 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับลดลงในวันนี้ (18 ก.พ.) จากแรงขายเก็งกำไร ตามดัชนีดาวโจนส์ซึ่งร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมโรงงานในเขตนิวยอร์กและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สู้ดีนัก ส่งผลให้สเตรทส์ไทม์ปรับปิดลบหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมา 
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ขยับลง 5.34 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 3,083.34 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,062.75 และ 3,121.25 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.9 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          "นักลงทุนในตลาดสิงคโปร์ต่างรอข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐ" เทอร์เรนซ์ หว่อง หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดค้าปลีกจาก DMG & Partners กล่าว
          ด้านยอดส่งออกนอกภาคน้ำมันที่ขยายตัวอย่างคาดไม่ถึงที่ 2.8% เป็น 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ไม่สามารถลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังซบเซาได้          
          "เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ตกต่ำถึงขีดสุด คาดว่าต่อจากนี้ไปจะมีปัจจัยลบจากสหรัฐมากกว่านี้" เวสท์คอมบ์ ไฟแนนเชียลกล่าว
          โรเบิร์ต คอง นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า ผู้บริหารดูเหมือนว่าจะมีมุมมองที่เป็นบวกแต่ก็ระมัดระวังเกี่ยวกับโอกาสในการขยายตัว และย้ำว่าความกังวลเรื่อง CDO ซับไพรม์นั้นเป็นเรื่องของอดีต
          หุ้นดีบีเอส ซึ่งทะยาน 34 เซนต์ เป็นแกนนำในการปรับเพิ่มของตลาดหุ้น ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารตัวอื่นปิดปรับขึ้นลงแตกต่างกันไป โดยหุ้นโอซีบีซี ขยับขึ้น 5 เซนต์ ในขณะที่หุ้นยูโอบี ร่วง 26 เซนต์
          หุ้นเนปจูน โอเรียนท์ ไลน์ส ทะยาน 24 เซนต์ ในขณะที่หุ้นบลูชิปตัวอื่นส่วนมากปรับลดลง โดยหุ้นสิงคโปร์ เทเลคอม ขยับลง 1 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ ร่วง 15 เซนต์ และ หุ้นเคปเพลคอร์ป ลดลง 6 เซนต์
          ด้านหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วย หุ้นแคปิตัลแลนด์ ขยับลง 1 เซนต์, หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลบ 8 เซนต์ และ หุ้นเคปเพลแลนด์ ลดลง 6 เซนต์