โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" CPF รับผลบวกราคาสุกรในเวียดนามฟื้น-ต้นทุนวัตถุดิบลด ,แนวโน้มธุรกิจไก่สดใสจากตลาดส่งออกดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 2, 2019 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำซื้อหุ้นบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) จากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทั้งราคาถั่วเหลืองและข้าวโพด ราคาสุกรในเวียดนามที่ฟื้นตัวดีขึ้น และราคาสุกรในประเทศยังยืนอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ธุรกิจไก่ จะได้รับผลดีจากการส่งออก ที่เติบโตสูง และราคาขายสูงกว่าการจำหน่ายในประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนขยายตัวมาก จากการขาดแคลนสุกรช่วยเพิ่มความต้องการไก่ อีกทั้งในปี 63 จะเป็นปีที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิก ทำให้การบริโภคในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

พีกเที่ยงราคาหุ้น CPF อยู่ที่ 29 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.69% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.12%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          กสิกรไทย                      ซื้อ                         35.00
          หยวนต้าฯ                      ซื้อ                         37.50
          คันทรี่ กรุ๊ป                     ซื้อ                         30.25
          เอเชีย พลัส                    ซื้อ                         35.00

นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้น CPF นับเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มสินค้าเกษตร เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ช่วยหนุนกำไรสุทธิในปี 62 ทั้งต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ราคาสัตว์บกในประเทศที่อยู่ระดับสูง ราคาสุกรที่ฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จากปัญหาอุปทานขาดแคลนที่คาดจะเกิดขึ้นในอนาคต

"เรายังคงมุมมองบวกต่อ CPF เนื่องด้วยปัจจุบันราคาสุกรในประเทศจีนมีราคาที่สูงมาก จากการขาดแคลนเนื้อสุกรอย่างหนัก ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการครึ่งปีหลังนี้ บวกกับน่าจะได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และราคาต้นทุน ทั้งถั่วเหลืองและข้าวโพดปรับตัวลดลง"นายภาสกร กล่าว

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาสุกรในเวียดนามกลับเข้าสู่ระดับปกติแล้ว และคาดว่าจะยังไต่ระดับขึ้นได้ต่อ และภาวะขาดแคลนอาจทำให้ราคาสูงกว่าช่วงก่อนมีโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ระบาด ขณะเดียวกันราคาสุกรในประเทศก็เริ่มหยุดปรับตัวลงแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ทำกำไรได้สูง จึงคาดว่าจะไม่กระทบกับกำไร เพราะชดเชยด้วยราคาสุกรเวียดนามที่ฟื้นตัว และมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลจะช่วยหนุนราคาสุกร , ไก่ ในประเทศอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ธุรกิจไก่จากนี้จะดีมาก จากการส่งออก ที่เติบโตสูงและราคาขายสูงกว่าการจำหน่ายในประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกไปจีน จากสุกรที่ขาดแคลนช่วยเพิ่มความต้องการไก่ อีกทั้งในปี 63 จะเป็นปีที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิก ทำให้การบริโภคในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าการส่งออกไก่ไปญี่ปุ่น จะได้อานิสงส์ในปี 63

ส่วนราคากากถั่วเหลืองที่ปรับตัวลง ทำให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารสัตว์ และฟาร์มเลี้ยงสัตว์มีมาร์จิ้นดีขึ้น จากภาวะอากาศในอาร์เจนตินาและบราซิลเป็นปกติ ทำให้ปริมาณถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และความต้องการกากถั่วเหลืองในจีนลดลงจากการระบาดของ ASF กระทบการเลี้ยงสุกรลดลงทำให้ราคากากถั่วเหลืองฟื้นตัวได้ยาก ด้านบทวิเคราะห์บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวในบทเวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการของ CPF ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกของราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ทั้งราคาสุกรที่ยังยืนได้สูงกว่าปีก่อน แต่ชะลอตัวจากไตรมาส 2/62 ที่มีราคาเฉลี่ยสูงกว่า 70 บาท/กิโลกรัม (กก.) รวมถึงเนื้อไก่ที่ได้รับผลดีจากความต้องการจากตลาดส่งออกที่ยังดีอยู่ โดยไตรมาส 3 ถือเป็นช่วง High Seasons ของการส่งออกของทุกปี

ขณะที่ราคาเนื้อสุกรที่ประเทศเวียดนามเริ่มกลับมาปรับตัวดีขึ้น อยู่ในระดับ 40,000-45,000 ดอง/กก. สูงกว่าในช่วงไตรมาส 2/62 ที่มีราคาเฉลี่ยระดับ 35,000 ดอง/กก. แต่ต่ำกว่าปีก่อนที่สูงถึง 50,000 ดอง/กก. ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ขาดทุน

อย่างไรก็ตามได้มีการปรับประมาณการของกำไปกติในปีนี้ขึ้นเป็น 15,390 ล้านบาท จากเดิมที่คาดจะทำได้ 11,080 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกกำไรปกติออกมาดีกว่าคาด และแนวโน้มครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ