DTC มั่นใจปีนี้มีกำไร แม้ H1/62 ขาดทุนสุทธิ ยันรายได้โตเข้าเป้า 8% ,เจรจาซื้อรร. 3 แห่งในตปท.-ดันบ.ในกลุ่มเข้า mai

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 2, 2019 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน กลุ่มบมจ.ดุสิตธานี (DTC) เปิดเผยว่า มั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะมีกำไรอย่างแน่นอน แม้ช่วงครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุนอยู่ราว 21.54 ล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส 3/62 บริษัทจะรับรู้กำไรบางส่วนจากการขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ และลงทุนในหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) ตามสัดส่วนการถือหน่วยเดิม ซึ่งมูลค่าโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท

โดยบริษัทยังคงมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 8% จากปี 61 มีรายได้อยู่ที่ 5,565 ล้านบาท โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจาก การปิดโรงแรมดุสิตธานี และ การปิดปรับปรุงห้องพักของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทหารายได้อย่างอื่นมาชดเชย เช่น ธุรกิจอาหาร epicure ที่มีรายได้ต่อปีที่ 450 ล้านบาท และ กำลังเข้าไปซื้อธุรกิจอาหารที่เวียดนาม ซึ่งมีรายได้ต่อปีที่ 400-420 ล้านบาท

สำหรับครึ่งหลังปีนี้ บริษัทมีมุมมองบวกต่อภาพรวมธุรกิจการศึกษา และ ธุรกิจอาหาร โดยธุรกิจใหม่ที่เริ่มดำเนินการในครึ่งปีแรกจะเริ่มเห็นรายได้ที่ทยอยเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจอาหาร ในส่วนของการขยายธุรกิจโรงแรมบริษัทยังมีแผนการเปิดโรงแรมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีน อังกฤษ และ รัสเซีย ทำให้การขยายตัวของรายได้จากธุรกิจโรงแรมมีข้อจำกัด

พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มเติมอีก 5 แห่งในครึ่งปีหลัง ที่ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศจีน โดยในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการวิลล่าระดับหรูแบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ Elite Havens ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทย่อย ปัจจุบันมีจำนวนวิลล่าภายใต้การบริการจัดการจำนวน 238 แห่ง โดยมีแผนที่จะรับบริหารวิลล่าเพิ่มเติมในตลาดที่บริหารอยู่แล้ว คือ ที่ประเทศญี่ปุ่น และ อินโดนีเซีย รวมทั้งตลาดใหม่ใน ออสเตรเลีย

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3 มีแผนที่จะเปิด Dusit Hospitality Management College (DHMC) ซึ่งจะเป็นวิทยาลัยแห่งแรกในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะบูรณาการการเรียนการสอนเข้ากับการบริหารโรงแรมดุสิต ดีทู เดอะฟอร์ท มะนิลา

ทั้งนี้ บริษัทยังมองหาการเข้าซื้อโรงแรมในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ดีล มีทั้งในยุโรป และ ญี่ปุ่น แต่คาดว่าจะเห็น 1 ดีลภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีจำนวนห้อง 260 ห้อง และจะใช้เงินลงทุนจากการกู้สถาบันการเงิน เพราะยังมีหนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง 0.7 เท่า ไม่รวมงบลงทุนในปีนี้ที่ 1,140 ล้านบาท แบ่งออกเป็น งบลงทุนในการปรับปรุงโรงแรม 3 แห่ง จำนวน 245 ล้านบาท, งบลงทุนในระบบ ERP ซอฟต์แวร์ โรงแรม และ การศึกษา จำนวน 245 ล้านบาท และ งบลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม จำนวน 650 ล้านบาท

นายณรงค์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังมีแผนนำบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (NRF) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ถือหุ้นอยู่ราว 26% และเป็นผู้ผลิตอาหารที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 63 เพื่อนำเงินที่ได้มาขยายธุรกิจอาหาร โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจอาหารขึ้นมาจากปัจจุบัน 7.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ