นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เนื่องจากมีการเก็งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเริ่มที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะประชุมในสัปดาห์นี้ ตลาดฯก็คาดการณ์ว่ามีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุม 17-18 ก.ย.นี้ ตลาดฯก็มั่นใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาไม่ดี-ต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้มองว่าสภาพคล่องน่าจะกลับมาที่สินทรัพย์เสี่ยง
ส่วนบ้านเราก็ยังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุนแล้ว ต่อไปก็รอดูด้านท่องเที่ยว และการส่งออก ว่าจะนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจพิจารณาได้เมื่อใด
พร้อมให้แนวรับ 1,666 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,797.46 จุด เพิ่มขึ้น 69.31 จุด (+0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,978.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด (+0.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,103.07 จุด ลดลง 13.75 จุด (-0.17%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 14.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 24.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 52.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 28.04 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.20 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.41 จุด
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพยังดีเปอร์ตวนอากง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.ย.62) 1,670.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด (+0.02%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,459.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ก.ย.62) ปิดที่ 56.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.ย.) อยู่ที่ 6.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.66 ตลาดจับตาประชุม ECB กลางสัปดาห์นี้ มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.60-30.70
- "สมคิด" เป็นประธานร่วมลงนามความร่วมมือการลงทุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพเพื่อระดมทุนครั้งแรกกว่า 500 ล้านบาทวันนี้ เตรียมดึงภาคเอกชนชั้นนำ 12 องค์กรประเดิม ขับเคลื่อน บ.อินโนสเปซ (ประเทศไทย) เพื่อหนุนไทยศูนย์กลางสตาร์ทอัพ
- กนอ.โชว์สถิติยื่นลงทุน 10 เดือน สร้างเม็ดเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท จ้างงานเข้าระบบเพิ่มเฉียด 4 พันราย ชี้ปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ-ความชัดเจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี
- พาณิชย์ลุยยุทธศาสตร์สินค้า 2 แผ่นดิน ผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้านผลิตสินค้าตีตลาดทั่วโลก เบื้องต้นรุกเข้าจีนและอาเซียนโดยร่วมกับกัมพูชาและเมียนมาใช้วัตถุดิบเด่น ๆ ของแต่ละประเทศมาทำสินค้าร่วมกัน ถือเป็นครั้งแรกในโลก
- ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการยื่นคำขอใบอนุมัติ-อนุญาตใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการทั้งกิจการใหม่และขยายกิจการในนิคมอุตสาหกรรม 56 แห่งทั่วประเทศ ในรอบ 10 เดือน (ต.ค.2561-ก.ค.2562) ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่เข้ามายื่นคำขอใบอนุมัติ-อนุญาตใช้ที่ดินรวมทั้งสิ้น 90 ราย
- อธิบดีกรมสรรพากร เผยจัดเก็บรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ปีนี้มีแนวโน้มจะต่ำกว่าเป้า เห็นได้จากตัวเลขการจัดเก็บภาษีแวตเดือน มิ.ย.ติดลบ 5.6% และเดือน ก.ค. ติดลบ 9.1% ทำให้ยอดประเมินการจัดเก็บรอบ 10 เดือนติดลบที่ 2.1%
*หุ้นเด่นวันนี้
- JMT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 24 บาท ทยอยสะสมคาดแนวโน้มกำไรจะยังพุ่งทำ All time high ได้ทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี
- SPALI(เอเชีย พลัส) "ทยอยลงทุน"เป้า 23.20 บาท คาดธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว โดยแนวโน้ม H2/62 คาดยอดโอนฯ และกำไรสูงกว่า H1/62 แรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่เชิงรุก 21 โครงการ (เน้นแนวราบ) และการส่งมอบคอนโดฯ ต่อเนื่องจาก H1/62 รวมถึงคอนโดฯ ใหม่ขนาดใหญ่ Supalai Veranda Rama 9 มูลค่า 4.3 พันล้านบาท (ขายแล้ว 99%) ขณะที่ราคาหุ้นปรับฐานลงมา จนทำให้อัตราเงินปันผลอยู่ในระดับสูงถึง 5.5% อีกทั้งยังมีจุดเด่นเรื่อง Backlog (ไม่รวม JV) สูงสุดในกลุ่มฯ ระดับ 4.34 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรองรับการเติบโตรายได้ใน 4-5 ปีข้างหน้า
- ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.10 บาท คอนโดใหม่ The Origin Sukhumvit 105 ที่เปิดขาย 7-8 ก.ย. ที่ผ่านมา และเปิดขาย 2 ตึก (A 243 units & C 205 units) ราคาขายเฉลี่ยราว 7 หมื่นบาท/ตร.ม. ทำยอดขายได้ 70% กระแสดีเกินคาดเพราะเป็นการขายอย่างไม่เป็นทางการ (ตึก B จะเปิดขาย 21 ก.ย. และขายอย่างเป็นทางการ 28 ก.ย. และตอกย้ำความสำเร็จเพราะเป็นแบรนด์เดียวกับที่เปิดไป 3 โครงการก่อนหน้าแล้วขายได้ถึง 70-80% 2 โครงการและอีกแห่ง Sold out ในวันแรกที่เปิดตัว และปัจจุบัน Sold out แล้วทั้งหมดภายใน 1 เดือน