ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,674.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 71,227.76 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,674.73 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,661.66 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 771 หลักทรัพย์ ลดลง 855 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 376 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าช่วงเช้า เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นจีน ภายหลังจากที่จีนประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯบางรายการ ส่งสัญญาณเชิงบวกก่อนการเจรจาในช่วงต้นเดือน ต.ค.มนี้ แต่สินค้านำเข้าสำคัญจากสหรัฐฯอย่าง ถั่วเหลือง, ข้าวโพด, เนื้อสัตว์ ไม่ได้ถูกยกเว้นด้วย
อนึ่ง จีนได้เปิดเผยรายการสินค้าจากสหรัฐชุดแรก 16 ชนิด รวมถึงเวย์โปรตีน, ปลาป่น และน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งจะได้รับการยกเว้นจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมรอบแรก โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ก.ย.เป็นเวลา 1 ปีจน ถึงวันที่ 16 ก.ย.63
นายกิจพณ กล่าวต่อว่า ตลาดฯ ยังมีความคาดหวังในเชิงบวกต่อผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยเชื่อว่าจะเห็นนโยบายการเงินผ่อนคลาย
แนวโน้มการลงทุนในวัพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่เมื่อดัชนีฯขึ้นใกล้แนวต้าน 1,680-1,690 จุด ก็จะมี upside จำกัด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,423.93 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,538.46 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,227.56 ล้านบาท ปิดที่ 177.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,212.51 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,199.98 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท ลดลง 1.00 บาท