ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,663.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 73,344.07 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,670.62 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,659.14 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 734 หลักทรัพย์ ลดลง 878 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 423 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งออกด้านข้าง คล้ายกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะเดียวกันก็ต้องรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุม 17-18 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องรอดูการส่งสัญญาณจากประธานเฟดว่าจะออกมาอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ ตลาดฯยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะประชุม 18-19 ก.ย. และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่จะประชุม 19 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิม
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงพยุงจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ Sentiment ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งทางซาอุดีอาระเบียก็ว่าการที่จะกลับมาผลิตน้ำมันในระดับเดิมอาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้กลุ่ม ICT หนุนตลาดด้วย ซึ่งตลาดฯก็เป็นลักษณะของการเวียนกลุ่มเล่นกัน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงรอผลประชุมเฟด พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,346.40 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,956.67 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 3,226.20 ล้านบาท ปิดที่ 414.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,980.15 ล้านบาท ปิดที่ 225.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,479.21 ล้านบาท ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท