(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลง เผชิญแรงกดดันจากดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯออกมาต่ำ-เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปทะเลญี่ปุ่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 2, 2019 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะซึมตัวลง เนื่องจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.2 ซึ่งครั้งนี้ถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯปรับตัวลง

ด้านตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ได้รับแรงกดดันจากเกาหลีเหนือซ้อมยิงเป็นขีปนาวุธเช้านี้ไปยังทะเลญี่ปุ่น ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดเกาหลีใต้ปรับตัวลงเช้านี้ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนยังคงปิดทำการเนื่องในวันชาติ อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ และในวันศุกร์นี้ก็ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

แต่ถ้าหากดัชนีฯปรับตัวลงมาแถว 1,610-1,615 จุด ก็มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ และเมื่อดัชนีฯเช้าใกล้ระดับ 1,600 จุด จะน่าสนใจลงทุนมากขึ้น

พร้อมให้แนวับ 1,615-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,573.04 จุด ร่วงลง 343.79 จุด (-1.28%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,940.25 จุด ลดลง 36.49 จุด (-1.23%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,908.68 จุด ลดลง 90.65 จุด (-1.13%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 140.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 14.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 190.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 23.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.59 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 18.30 จุด,

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ (2 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ต.ค.62) 1,624.09 จุด ลดลง 13.13 จุด (-0.80%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,496.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ต.ค.62) ปิดที่ 53.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ต.ค.) อยู่ที่ 6.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.61 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนจากตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯซบเซา
  • "สมคิด" ปลื้มเซ็นเรือมาบตาพุดเฟส 3 นำร่องเมกะโปรเจคแรกอีอีซี "กัลฟ์-ปตท." ทุ่มลงทุน 3.5 หมื่นล้าน เล็งกู้เงินในประเทศ 1.3 หมื่นล้าน นำร่องลงทุนถมทะเล 1 พันไร่ ชี้ดอกเบี้ยต่ำ หวังลุยธุรกิจแอลเอ็นจี ไม่ห่วงประมูลแหลมฉบังเฟส 3
  • สถิติการขนส่งผู้โดยสารภาพรวมผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ช่วงปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-กันยายน 2562) ว่า มีปริมาณผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 141,873,999 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.70% แบ่งเป็น ระหว่างประเทศ 84,049,311 คน เพิ่มขึ้น 4.4 % และในประเทศ 57,824,688 คน ลดลง 2.0%
  • พลังงานราคาหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 คาดเงินเฟ้อทั้งปีต่ำกว่า 1% ในรอบ 2 ปี ครม.เห็นชอบต่ออายุมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ ส่งออกในปี 2562 หดตัวที่ประมาณ -1.5%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดจีดีพีปี 2562 เหลือ 2.8% คาดชิมช้อปใช้กระตุ้นแค่ 0.02% ประเมินเศรษฐกิจทรุดยาวถึงปีหน้า ปัจจัยลบสงครามการค้าลากยาวฉุดส่งออกไทย ผู้ประกอบการชะลอรับพนักงานใหม่ และเลิกจ้างงานเพิ่มขึ้น แนะรัฐเร่งช่วยเหลืออาชีพอิสระ และเอสเอ็มอีเพราะได้รับผลกระทบมากที่สุด
  • ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ปรับคาดการณ์การส่งออกปี 2562 หดตัว 1.5% บนสมมติฐานค่าเงินบาท 33(บวก/ลบ 0.5) บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากก่อนหน้าได้ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้มาที่ -1% จากเดิมที่เคยคาด โต1% เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนปี 63 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ระดับ 0-1% บนสมมติฐานค่าเงินบาท 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 21.8 บาท ได้ผลบวกจากราคา Skipjack Tuna ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของทูน่ากระป๋องของ TU
ปรับตัวลงสู่ระดับ USD1,100/ton ในเดือน ก.ย.ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ช่วยคลายกังวลต่อทิศทางราคาทูน่าที่สูงขึ้นในช่วงก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยให้ GPM และกำไรของ TU เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นทั้ง Q3/62 และ Q4/62
  • M (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 79 บาท ราคาหมูที่ปรับลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เป็นประโยชน์ต่อต้นทุนวัตถุดิบปีนี้เพราะล็อคราคากับ supplier ยาวทั้งปีแล้ว (ในราคาต่ำ) แต่จะเป็นประโยชน์ต่อต้นทุนในปีหน้าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเจรจาล็อคราคาวัตถุดิบในปีถัดไป กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q2/62 ที่มีค่าใช้จ่ายยูนิฟอร์มใหม่ของพนักงานและรายจ่ายพิเศษอื่น โดยคาดกำไรจะค่อย ๆ ฟื้นใน Q3/62 ซึ่งยังเป็น low season หน้าฝน แต่จะกลับมาโตใน Q4/62 โดยคาดกำไรทั้งปีที่ 2.9 พันลบ. +10% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันมี PE 22 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 25 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ