ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,627.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 51,061.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,633.89 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,621.73 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 609 หลักทรัพย์ ลดลง 869 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 469 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างในกรอบแคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยทางจีนแสดงความต้องการที่จะพูดคุยกับสหรัฐฯอีกรอบก่อนที่จะลงนามข้อตกลง หลังจากที่ผลการเจรจาเบื้องต้นสามารถตกลงกันได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีหลายปัจจัยที่จะต้องติดตามดู ทั้งเรื่องของการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะออกมาในสัปดาห์นี้ และพัฒนาการการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงเรื่องอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากที่บ่ายนี้มีข่าวออกมาในลักษณะที่อาจได้เห็นทางออก นอกจากนี้ก็ให้ติดตามวันที่ 17-19 ต.ค.นี้ที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ก็ให้รอดูว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน
อนึ่ง บ่ายนี้มีข่าวออกมาว่า นายไมเคิล บานิเยร์ หัวหน้าผู้แทนเจรจา Brexit ของสหภาพยุโรป (EU) มองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะตกลงกันระหว่าง EU และอังกฤษในเรื่องข้อตกลง Brexit
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AWC มูลค่าการซื้อขาย 3,796.24 ล้านบาท ปิดที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,082.48 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,039.80 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,952.74 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,436.51 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท