ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,596.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.20 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 49,889.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,599.10 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,579.13 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 640 หลักทรัพย์ ลดลง 918 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 449 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้หลังร่วงแรงวานนี้ และเช้านี้ที่ปรับตัวลงไปมากด้วย แต่การปรับขึ้นของตลาดฯช่วงสั้นยังมีกรอบจำกัด เนื่องจากในทางเทคนิคเมื่อดัชนีฯหลุดแนว 1,600 จุด ก็ทำให้ Downside เปิดโอกาสที่จะลงไปทดสอบ 1,570-1,550 จุดได้
นอกจากนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาหลายตัวไม่ดี และตลาดฯอาจจะปรับลดประมาณการลงได้ รวมถึงตลาดไทยอาจมีความเสี่ยงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield) ที่มีโอกาสปรับขึ้นได้ หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ตลาดฯคาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหาก Bond yield พุ่งก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อทิศทางการลงทุนระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี มองเศรษฐกิจโลกปีหน้าน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ และจะผลักดันตลาดฯได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.3-0.8% ซึ่งต่างก็บวกได้ดีกว่าตลาดบ้านเรา จากความคาดหวังเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในเดือนหน้า และการประชุมเฟดในช่วงปลายเดือนนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ หากดัชนีฯยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,610 จุดขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,550-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 4,768.78 ล้านบาท ปิดที่ 91.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,066.13 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,953.45 ล้านบาท ปิดที่ 359.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,818.21 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,553.35 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท ลดลง 0.50 บาท