นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด เนื่องจากได้ปัจจัยบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีความคืบหน้าในทางบวก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณจะลงนามข้อตกลงได้ก่อนการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ในเดือนหน้า และทางสหภาพยุโรป (อียู) ก็เลื่อนเส้นตายของการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปเป็น 31 ม.ค.63 ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวค่อนไปทางบวกเล็กน้อยด้วย
อย่างไรก็ดี บ้านเรายังมีแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และเงินบาทแข็งค่า รวมถึงสหรัฐฯตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ของไทยในสินค้าบางรายการ ด้านผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของ SCC และ DELTA ที่ประกาศออกมาแล้วก็แย่กว่าตลาดคาดด้วย อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการทยอยประกาศงบฯต่อไป และติดตามตัวเลขภาคอุตสาหกรรมของไทยงวดก.ย. และรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุมในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,090.72 จุด เพิ่มขึ้น 132.66 จุด (+0.49%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,039.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.87 จุด (+0.56%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,325.99 จุด เพิ่มขึ้น 82.87 จุด (+1.01%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.52 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 136.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 25.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.16 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.03 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ต.ค.62) 1,596.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.20 จุด (+0.20%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 657.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ต.ค.62) ปิดที่ 55.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ต.ค.) อยู่ที่ 2.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.23/24 อ่อนค่าจากวานนี้ กังวลผลกระทบหลังสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย
- "พาณิชย์" เปิด 7 มาตรการ รับมือระงับจีเอสพีสหรัฐ พร้อมแจงแผน ถกสหรัฐหวังได้คืนสิทธิ นายกฯ วอนอย่าโทษกันไปมา เชื่อเจรจาหาทางออกได้ รับอาจเป็นเพราะจีดีพีไทยโตแล้ว ขณะที่แบงก์จับตาธุรกิจส่งออกห่วงทำความสามารถชำระหนี้ร่วง
- "เอสซีจี" เผยยอดขายไตรมาส 3 กว่า 1.1 แสนล้านบาท ลดลง 10% คาดฉุดยอดทั้งปีลง 8% เหตุจากสงครามการค้า บาทแข็ง กดรายได้กลุ่มธุรกิจเคมิคอลส์ร่วงยาว เผยแผนดันธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้โอกาสเติบโตสูง
- คลัง ยกธงหั่น "จีดีพี" ไทยปีนี้ เหลือ 2.8% หลัง "ส่งออก" วูบหนัก คาดปีนี้หดตัว 2.5% ขณะ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยดันจีดีพี ครึ่งปีหลังฟื้น เผยตัวเลขไตรมาส 3 ขยายตัว 2.9% จับตาปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า-การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
- "สนธิรัตน์" จ่อคลอดมาตรการสกัดลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ หวังแก้ปัญหาทั้งระบบ ผนึกค่ายรถ ผู้ค้าน้ำมัน ผู้ผลิตไบโอดีเซล ชาวสวน การันตีคุณภาพน้ำมันดีเซล บี10 ก่อนดันประกาศเป็นน้ำมันพื้นฐาน 1 ม.ค.2563 ด้านกรมธุรกิจฯนัดหารือแผนส่งเสริมแก๊สโซฮอล์
- ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ประจำไตรมาส 3 ปี 2562 ได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาททั่วประเทศจำนวน 2,186 ตัวอย่าง พบว่าดัชนี GSI ไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ระดับ 44.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2562 ที่อยู่ระดับ 42.4 เนื่องจากประชาชนฐานรากมีการปรับตัวให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และมีปัจจัยบวกจากผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยทั้งในภาคเกษตรกรรมและนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย
*หุ้นเด่นวันนี้
- MAJOR (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 33 บาท แนวโน้มกำไร Q3/62 ลดตามฤดูกาลแต่โตดีจากปีก่อน โดยคาดกำไร 195 ล้านบาท -61% Q-Q (Q2/62 เป็นหน้าหนังและมีหนังทำเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ Avengers Endgame) แต่ +45% Y-Y มีหนังทำเงินสูงเช่น Spider-Man: Far from Home (ทำรายได้ 298 ล้านบาท) Fast and Furious Hobbs and Shaw Home (รายได้ 244 ล้านบาท) และ The Lion King (รายได้ 113 ล้านบาท) โดยปรับกำไรปี 2562-2563 ลง 7-8% เป็น +17% Y-Y ปีนี้และ +10% Y-Y ปีหน้า
- MTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 63 บาท กลุ่มไฟแนนซ์ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง(คาดเฟด และ กนง.จะลดดอกเบี้ย) ช่วยลดต้นทุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการในกลุ่มไฟแนนซ์ โดยปีหน้า MTC มีหนี้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและสามารถ Refinanc ได้มากที่สุดของกลุ่มที่ประมาณ 8,700 ล้านบาท