TKN ลบ 2.70% หลังกำไร Q3/62 ลดลง 46.7% เหตุหลักรายได้จากการขายในตลาดจีนลดลง-ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 12, 2019 10:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TKN ราคาไหลลง 2.70% มาอยู่ที่ 10.80 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 71.90 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.12 น. โดยเปิดตลาดที่ 10.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 10.40 บาท

บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 68.69 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 128.78 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.09 บาท

พร้อมอธิบายว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 จำนวน 68.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.4 ของรายได้จากการขาย ลดลงร้อยละ 46.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้เมื่อเทียบสัดส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขาย ลดลงร้อยละ 3.4 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (ลดลงร้อยละ 2.1 จากไตรมาส 2/2562) โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากการขายที่ลดลงในตลาดจีน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 1,267.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.8 จากไตรมาสเดียวกันปีทีผ่านมา (ลดลงร้อยละ 2.6 จากไตรมาส 2/2562) โดยตลาดในประเทศ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 548.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาส 2/2562) ส่วนตลาดต่างประเทศ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 719.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.9 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (ลดลงร้อยละ 7.8 จากไตรมาส 2/2562)

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนผ่านผู้แทนจำหน่ายในประเทศจีน กับทางพันธมิตรใหม่ที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ และมีประสบการณ์ในการทำตลาดดังกล่าวมายาวนาน โดยได้เริ่มทำการขายผ่านผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 4/2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ตลาดจีนคิดเป็นร้อยละ 35 ของรายได้จากการขายรวม และมีอัตราลดลงร้อยละ 16.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมียอดเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา/ลาว/เมียนมา/เวียดนาม) เป็นต้น

บริษัทฯ มีต้นทุนในการจัดจำหน่ายไตรมาสที่ 3 จำนวน 196.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.5 ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากไตรมาส 2/2562) เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายลงทุนพัฒนาและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ร้านข้าวแกงกะหรี่ การขยายตลาดสินค้าในกลุ่มประเทศใหม่ เช่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงค่าใช้จ่ายการขายในการเปลี่ยนผ่านผู้แทนจำหน่ายในประเทศจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ