ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 45,404.97 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,632.82 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,622.18 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 636 หลักทรัพย์ ลดลง 852 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 515 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นบิ๊กแคปรีบาวด์ ทั้งกลุ่มแบงก์, พลังงาน และสื่อสาร ปรับตัวขึ้นมาได้ดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลงไปมากแล้ว และมีปัจจัยเฉพาะในแต่ละกลุ่ม อย่างกลุ่มสื่อสารได้รับปัจจัยบวกความชัดเจนขอวการประมูล 5G ส่วนกลุ่มแบงก์มีแรงซื้อกลับหลังรับเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว และกลุ่มพลังงานคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 4/62 จะดีกว่าไตรมาส 3/62 ที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมันมาก
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังต้องจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงโค้งสุดท้าย รวมทั้งติดตามสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในการประชุม Economic Club of New York และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 13-14 พ.ย.นี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว โดยมีแนวรับ 1,620 จุด ซึ่งเป็นแนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรจะหลุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,640-1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,409.81 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,042.85 ล้านบาท ปิดที่ 233.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
SHR มูลค่าการซื้อขาย 2,011.93 ล้านบาท ปิดที่ 4.14 บาท ลดลง 1.06 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,986.52 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,664.44 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง