NER เผยงวด 9 เดือนกำไรโต 43.97% วางเป้าปี 63 รายได้โตต่อเนื่องกว่า 30% รับ รง.ใหม่-ลูกค้าใหม่-สินค้าใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 14, 2019 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 62 บริษัทมีรายได้ 9,398.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,564.85 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 414.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.97%

และงวดไตรมาส 3/62 บริษัทมีรายได้รวม 3,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,593 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.45 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นเนื่องจากราคาขายยางดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ประมาณ 52 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน เพราะบริษัทมีสต็อกต้นทุนยางราคาต่ำกว่าตลาด และบริษัทมีการจัดหาวัตถุดิบต้นทุนต่ำไว้ล่วงหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอานิสงส์คำสั่งซื้อในประเทศเพิ่มขึ้นจากการย้ายฐานการผลิตของลูกค้าจีนและลูกค้าต่างประเทศจากสิงคโปร์ตามสัญญา Long Term อีกทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ยางผสมอัดแท่ง (RSS-CPR) ซึ่งเริ่มมียอดขายในเดือน ก.ค.62

นายชูวิทย์ เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมไม่ต่ำกว่าปี 61 ที่มีรายได้ 10,084.01 ล้านบาท

สำหรับโครงการผลิตก๊าซชีวภาพนั้น คาดว่าในปลายปี 62 จะเริ่มเดินเครื่องโครงการแรก ส่วนโครงการที่ 2 จะเริ่มในไตรมาส 1/63 คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนให้บริษัทประมาณเดือนละ 5 ล้านบาท และยังช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน จากปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานราวเดือนละ 10 ล้านบาท ดังนั้น หากโครงการนี้เริ่มผลิตได้เต็มกำลังจะสามารถลดรายจ่ายได้เดือนละ 5 ล้านบาท

นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมในปี 63 เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากบริษัทเริ่มได้รับคำสั่งซื้อยางเพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหม่หลายราย หลังจากที่บริษัทคู่แข่งในตลาดบางแห่งปิดกิจการไป ประกอบกับ โรงงานผลิตแห่งใหม่จะเปิดเดินเครื่องในไตรมาส 2/63 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว ดังนั้น บริษัทจึงประมาณการยอดขายในปีหน้าที่ราว 400,000 ตัน เพิ่มขึ้น 52% จากปี 62

นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าราคาขายเฉลี่ยในปีหน้าจะสูงกว่าปีนี้ค่อนข้างมากจากอุปทานยางทั่วโลกที่ตึงตัวขณะที่อุปสงค์ยางค่อนข้างมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อของผู้ซื้อยางจากประเทศจีน พร้อมกันนี้ ในกลางปีหน้าบริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ เป็นสินค้าสำเร็จรูปที่เป็นแผ่นปูนอน แผ่นรองในพื้นคอกของปศุสัตว์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ