ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,609.47 จุด ลดลง 5.67 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 48,833.53 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,619.86 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,605.32 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 578 หลักทรัพย์ ลดลง 974 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 469 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐาน จากความไม่ชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และบ้านเรายังมีความกังวลเสถียรภาพรัฐบาล หลังเริ่มเห็นสัญญาณความขัดแยังของพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล รวมทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 ก็ยังไม่ดีด้วย
อย่างไรก็ดี มอง 3 เดือนข้างหน้าตลาดฯน่าจะดีขึ้นได้หลังผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว แต่บ้านเราอาจจะฟื้นตัวด้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค เนื่องจากเศรษฐกิจบ้านเราแย่กว่าหลายประเทศที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวบ้างแล้ว โดยการใช้จ่ายในประเทศยังชะลอตัว อันเป็นผลจากงบประมาณภาครัฐล่าช้า ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่แข็งแกร่งเหมือนหลายประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นไทยรอบนี้ดูอ่อนแอ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าติดลบ แต่ช่วงบ่ายหลายตลาดฯพลิกกลับมาบวกได้ อย่างตลาดหุ้นออสเตรเลีย, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้, ตลาดหุ้นอินเดีย เป็นต้น ส่วนตลาดยุโรปบ่ายนี้เปิดบวก โดยมองว่าทิศทางการตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจทำให้ตลาดฯไม่มีปัจจัยหนุน และการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นบวกก็ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นมากนัก
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ยังต้องลุ้นให้ดัชนียืนเหนือ 1,610 จุด หลังจากวันนี้หลุดระดับดังกล่างส่งผลให้สัญญาณทางเทคนิคดูไม่ดี
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,605 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,620 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STEC มูลค่าการซื้อขาย 2,398.83 ล้านบาท ปิดที่ 14.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,186.77 ล้านบาท ปิดที่ 44.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,419.94 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,372.95 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,268.62 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท