ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,591.86 จุด ลดลง 4.97 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 47,152.79 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,595.77 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,583.77 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 535 หลักทรัพย์ ลดลง 1,039 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 455 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียติดลบเช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่ลงไปเกือบ 1% ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์ติดลบเล็กน้อย เป็นผลจากแรงกดดันเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากเกิดความวิตกว่าจะไม่สามารถลงนามข้อตกลงกันได้ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดี ยังมีเวลาจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.ที่สหรัฐฯกำหนดปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ระหว่างนี้ก็ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป
สำหรับตลาดบ้านเราวันนี้ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากตัวเลขส่งออกของไทยในเดือน ต.ค.62 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดไว้ และในทางเทคนิคดัชนีลงมาต่ำกว่า 1,590 จุดระหว่างเทรด ทำให้เริ่มมีการมองกันว่าที่ระดับ 1,580 จะรับอยู่หรือไม่ ส่งผลให้เกิดการชะลอลงทุน พร้อมแนะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน พ.ย.62 ทั้งของสหรัฐฯ และยูโรโซน ซึ่งจะทยอยออกมาในวันพรุ่งนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดคงจะยังผันผวน ขึ้นกับข้อมูลข่าวสารเรื่องการเจรจาการค้าที่จะออกมาด้วย อย่างไรก็ดี ยังเลือกสามารถลงทุนหุ้นรายตัวได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,580-1,595 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,388.81 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท ลดลง 0.04 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,916.46 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,343.62 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,684.49 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,660.98 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 0.50 บาท