ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,567.63 จุด ลดลง 1.90 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 44,022.45 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,574.12 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,561.46 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 694 หลักทรัพย์ ลดลง 808 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 499 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากวานนี้ปรับตัวลงแรง โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มโรงกลั่นที่ดีดกลับขึ้นมาได้หลังจากที่ปรับตัวลงไปมากจากปัจจัยเฉพาะกลุ่ม แต่ก็ยังมปัจจัยต่างประเทศกดดันอยู่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งต่างก็รอดูว่าจะทำข้อตกลงกันได้ก่อนวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ เพราะเป็นวันที่สหรัฐฯกำหนดเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน นอกจากนี้สหรัฐฯยังจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากบราซิลและอาร์เจนตินา รวมถึงจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศสด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ทิศทางตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวไปตามกระแสข่าว ซึ่งขณนี้ตลาดฯ รอข่าวใหม่ และปัจจัยกระตุ้น ขณะเดียวกันยังต้องติดตามความคืบหน้าเจรจาการค้า, การไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งพรุ่งนี้ และการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 ถัดไป 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 ถัดไป 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,205.79 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,432.43 ล้านบาท ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,118.80 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,494.28 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,491.24 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท