(เพิ่มเติม) APCO มั่นใจปี 63 กำไรฟื้นโตหลังปีนี้มรสุมศก.กดผลประกอบการหด,ดึงพันธมิตรสิงคโปร์หนุนรุกตปท.-เปิดคลีนิก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 4, 2019 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า รายได้และกำไรสุทธิในปี 62 มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 377 ล้านบาท กำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าในปี 63 จะสามารถกลับมาเติบโต และมีกำไรสุทธิที่ดีอย่างแน่นอน

ท้งนี้ ทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทมุ่งเน้นการขยายฐานกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ LIV และ Operation BIM เพิ่มเติมต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมมือกับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้มีการใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด แก้ไขปัญหาและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป บริษัทเชื่อมั่นว่าหากการร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้ผลประกอบการกลับมาโดดเด่นได้ แม้ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บริษัทได้นายลิม โฮ คี กรรมการผู้จัดการของ Majuven Pte Ltd. ซึ่งเป็นนักธุรกิจชั้นนำชาวสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จสูงและมีประวัติในการส่งเสริมกิจกรรมช่วยเหลือสังคมและเพื่อนมนุษย์ เข้ามาร่วมธุรกิจของ APCO ขณะนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหารร่วม และกรรมการบริหารบริษัทในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ Majuven Pte Ltd. เป็นบริษัทของสิงคโปร์ที่จัดสรรทุนให้กับการพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพการเจริญเติบโตสูง และนายลิม โฮ คีเป็นผู้ประสบความสำเร็จโดดเด่น จากการร่วมวางแผนและบริหารบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก เช่น UBS AG, SingTel, Keppel Tatlee Bank Limited, K1 Venture Limited และ Singapore Post Limited. นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการอิสระและประธานกรรมการบริหารการเงินและการคลังของ SingTel ตั้งแต่ปี 1992-2000

APCO วางแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ โดยการร่วมกับเครือข่ายของ นายลิม โฮ คี และเพื่อให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น บริษัทจึงเตรียมแต่งตั้ง Chief Operating Officer เข้ามาร่วมประสานงาน ซึ่งตำแหน่งนี้จะได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมกรรมการบริหารในวันที่ 26 ก.พ.63

"นับเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่ APCO จะมีผู้ที่มีประสบการณ์สูงมากเข้าร่วมวางแผนธุรกิจและปรับกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อยกระดับให้ APCO เป็นบริษัทนานาชาติที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้มีประสิทธิภาพเด่นชัดมากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่อง HIV/AIDS และ มะเร็ง และในอนาคตอันใกล้ จะมีการผนวกนวัตกรรมอื่น เพื่อย่นระยะเวลาของผลการใช้ผลิตภัณฑ์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินการต่างๆ นี้ จะทำให้ APCO รุดหน้าอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยได้ดำเนินการมา นอกจากวัตถุประสงค์การดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพได้มากขึ้นแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยค่อยข้างชะลอตัว บริษัทจึงมุ่งเน้นการพัฒนางานวิจัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับกลยุทธ์ ปรับปรุงการดำเนินงาน พร้อมเผยแพร่นวัตกรรมภูมิคุ้มกับบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในปี 63 บริษัทจะร่วมกับพันธมิตรในสิงคโปร์ทั้งการจัดตั้งบริษัท 2 บริษัท และเพิ่มฐานลูกค้าจากเครือข่ายของพันธมิตร โดยปัจจุบัน นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด APCO เป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่สามารถทำให้ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ใหม่เข้าสู่ภาวะ HIV สงบ หรือ Functional cure โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส ไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น และจะไม่มีเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นใหม่ สามารถใช้ชีวิตเหมือนกับคนปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ความเป็นไปได้ว่าผู้ที่เข้าสู่ภาวะ Functional cure อาจจะไม่มีเชื้อเหลืออยู่ในร่างกาย

Functional cure เป็นภาวะที่ผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกกำลังเสาะแสวงหาอยู่ APCO จึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะจัดตั้ง Functional Cure Center (FCC) ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะมีคณะแพทย์เข้ามาร่วมดำเนินการด้วย โดยมุ่งเน้นให้บริการผู้ติดเชื้อจากประเทศจีนเป็นหลัก คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือน ก.พ.63

ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง APCO ได้วางแผนให้มีการจัดตั้งคลีนิค เพื่อให้บริการกับผู้ป่วยด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ของ APCO ควบคู่กับนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อจะให้เกิดประสิทธิภาพเด่นชัดในระยะเวลาอันสั้น โดยมีกำหนดการจัดตั้งคลีนิคนี้ภายในกลางปี 63 เริ่มจากการให้บริการกับผู้ป่วยในกลุ่มมะเร็วเม็ดเลือดขาวเป็นลำดับแรก

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า ทั้ง 2 ศูนย์บริการจะเข้ามาเสริมสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทได้ในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ