ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,563.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด (+0.78%) มูลค่าการซื้อขาย 56,739.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,568.62 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,557.10 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,067 หลักทรัพย์ ลดลง 591 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 406 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน หลังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯดี และตลาดบ้านเราก็ได้รับแรงหนุนจาก S&P Global Ratings ได้ปรับทบทวนแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยสู่ เชิงบวก จากเดิม มีเสถียรภาพ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติก็ได้กลับมาซื้อเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ในรอบ 10 วันที่ผ่านมาที่ขายมาตลอด ทำให้คนกล้าที่จะกลับเข้ามาซื้อ
ส่วนเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป ซึ่งในวันที่ 15 ธ.ค.นี้สหรัฐฯจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แต่ตลาดเชื่อว่าน่าจะเลื่อนออกไป ทั้งนี้ วันนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงซื้อคืนหลังจากที่ถูกขายไปมากแล้ว ซึ่งในเชิงเทคนิคก่อนที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นในวันนี้อยู่ในเขต Oversold
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.) นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอดูความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และยังต้องรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และผลการเลือกตั้งในอังกฤษด้วย เพราะมีผลต่อการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,571-1,575 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BBL มูลค่าการซื้อขาย 6,444.55 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 7.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,378.52 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,158.42 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,086.55 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,964.55 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 0.25 บาท