ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,549.74 จุด ลดลง 24.17 จุด (-1.54%) มูลค่าการซื้อขาย 53,908.69 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,573.41 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,549.69 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 434 หลักทรัพย์ ลดลง 1,309 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 337 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง อ่อนแอกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในส่วนที่ติดลบก็ไม่มากนัก ขณะที่ตลาดยุโรปปรับตัวขึ้นได้ดี ทั้งจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มคลี่คลาย และเริ่มเห็นเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นบวกต่อตลาดฯ
ขณะที่ตลาดบ้านเราวันนี้คาดว่าได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งนักลงทุนคงจะเริ่มเห็นภาพตั้งแต่การยุบพรรคอนาคตใหม่ และยังมองโอกาสที่จะมีการชุมนุมใหญ่ขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่อยากเห็น ดังนั้นวันนี้จึงมีการโยกเงินจากหุ้นปลอดภัยออกไปก่อน อย่างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นการเตรียมการโยกเข้าลงทุนหุ้นที่อิงการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากการเจรจาการค้ามีแนวโน้มคลี่คลายเชื่อว่าจะส่งผลดีให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งทรงตัว โดยนักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนเป็นรายกลุ่มได้ อย่างกลุ่มแบงก์ มองว่าน่าจะได้รับประโยชน์จากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพุธนี้ ซึ่งตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,546-1,567 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 6,064.21 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 5,138.71 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,799.62 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 10.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,299.57 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท ลดลง 4.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,072.03 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 0.50 บาท