ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,555-1,585 จุด โดยสหรัฐและจีนประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และสหรัฐได้ระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค. ส่วนจีนซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น และประกาศเลื่อนแผนการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าบางรายการของสหรัฐ
รวมทั้งการที่จีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 6.2% ในเดือน พ.ย. แข็งแกร่งกว่าที่คาดและสูงกว่าเดือนก่อนหน้า ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 8% สูงกว่าคาด การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 10.2% ในช่วง 11 เดือนแรก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วง 11 เดือนแรกขยายตัว 5.2% สอดคล้องคาดการณ์
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ปัจจัยที่ยังคงให้ความสำคัญ คือ การเมืองในประเทศขาดเสถียรภาพ เดือนหน้าอาจจะยังมีแฟลชม็อบที่นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ รวมทั้งสหรัฐเล็งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (อียู) ในอัตราสูงถึง 100% ตอบโต้กรณีพิพาทเงินอุดหนุนแอร์บัส
แนะนำจับตาการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2562 ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ และมีกำหนดการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาคำร้องยุบพรรค และในวันเดียวกันทางสหภาพยุโรป (อียู) จะมีการเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ย. เช่นเดียวกับสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
นอกจากนี้ในวันที่ 19 ธ.ค.ทางสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/62 รวมทั้งดัชนีการผลิตเดือน ธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และยอดขายบ้านมือสองเดือน พ.ย. ส่วนวันที่ 20 ธ.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ย. GDP ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เช่น AOT, CPALL, PTT, ADVANC, BBL, GPSC, AWC, BH, CPNREIT และ SF รวมทั้งหุ้นเด่นเดือน ธ.ค. ที่คาดงบการเงินไตรมาส 4/62 จะออกมาสดใส เช่น TACC, TNP และ JUBILE และหุ้น Global Play เช่น IVL, TU, KCE, PTTEP และ PTTGC
ส่วนราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,458-1,486 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสามารถสร้างฐานได้แม้ว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ธันวาคม ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ อีกทั้งผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเริ่มมีสัญญาณของเงินไหลเข้าอีกครั้งหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10-11 ธันวาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ SPDR เริ่มชะลอสถานะการขายทองคำ คำแนะนำ คาดว่าราคาทองคำสร้างฐานเหนือ 1,460 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ โดยให้ใช้กลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,460-1,485 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็น 20,890-21,280 บาทต่อบาททองคำ