โบรกฯ เชื่อมาตรการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ-ค่าธรรมเนียมกระตุ้นอสังหาฯ ได้จริง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 4, 2008 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บทวิเคราะห์ของ บล.ฟินันซ่า แนะนำ “Overweight" หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการลดภาษีธุรกิจเฉพาะการโอนจาก 3.3% เหลือ 0.1% เป็นเวลา 1 ปีและลดค่าจดจำนองจาก 2% เหลือ 0.01% เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ 
ฟินันซ่าเลือก Top Pick คือ LPN, PS, LH, QH, AP และ SPALI
บทวิเคราะห์ ระบุว่า ถือเป็นความพยายามครั้งที่ 2 หลังจากปีที่แล้วได้เคยนำเรื่องนี้เข้าครม.(ยุคขิงแก่) มาแล้ว แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ แต่ได้รับอย่างอื่นแทนคือเพิ่มเงินลดหย่อนดอกเบี้ยจากการกู้ซื้อบ้านจาก 5 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท เข้าไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทน ซึ่งไม่สามารถกระตุ้นยอดขายของอสังหาฯ ได้เท่าที่ควร โดยปี 50 มีที่อยู่อาศัยจดทะเบียนใหม่แค่ 78,613 หน่วย แทบไม่ต่างจาก 78,116 หน่วย จากปี 49
แต่เมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้วน่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจได้เด็ดขาดและรวดเร็วกว่าชุดก่อน ซึ่งหากมาตรการนี้อนุมัติก็จะกระตุ้นการลงทุนและภาคอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากมาตรการนี้เคยนำมาใช้ในครั้งก่อนและจบไปในปี 46
กลุ่มอสังหาฯ รับผลดีเต็มๆ จากมาตรการดังกล่าว ประหยัด SG&A ไปได้ถึง 4.19% ของ Sales ตามปกติภาษีธุรกิจเฉพาะที่บริษัทจ่ายจะอยู่ในอัตรา 3.3% และภาษีโอนจะจ่าย 1-2% แล้วแต่บริษัทที่อาจจะจ่ายให้กับลูกค้าทั้งหมดหรือแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรณีหลังคือจ่ายคนละ 1% นั่นหมายความว่าอย่างน้อยลูกค้าจะซื้อบ้านในราคาที่ถูกลง 1% และปกติบริษัทอสังหาฯ จะขายบ้านในราคาตลาดซึ่งหากราคาบ้านเหมาะสมอยู่แล้วก็อาจจะไม่มีการลดราคาลงมากกว่านี้นั่นหมายความว่าบริษัทจะได้ลด SG&A/Sales ลงจาก 4.3% เหลือ 0.11%
คาดกระตุกกำไรขึ้น 16-23% โดยบริษัทที่มี SG&A/Sales ต่ำอย่าง LPN LH และ SPALI ได้ประโยชน์สูงสุด จากการทำ Sensitivity Analysis พบว่าหากให้ SG&A/Sales ลดลงไป 4.19% จากฐานปัจจุบันจะทำให้บริษัทอสังหาฯที่เราดูแลมีกำไรสุทธิปี 51 เพิ่มขึ้นอัตโนมัติ 16-23% ภายใต้สมมติฐานที่ไม่มีการลดราคาบ้าน และตัวแปรอื่นไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อนจากตารางสรุปข้างล่างพบว่าบริษัทที่มี SG&A/Sale ต่ำ ได้ประโยชน์สูงสุดจากมาตรการลดภาษีดังกล่าว ซึ่งจะมีการปรับปรุงตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อข่าวจริงออกมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ