ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 65,404.07 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,587.77 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,575.98 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 646 หลักทรัพย์ ลดลง 943 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 474 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัวบ้างเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบเฉลี่ยราว 0.4% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ทรงตัว ภายหลังจากที่ตลาดฯได้รับรู้การลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไปในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับยังมีกระแสข่าวเรื่องสหรัฐฯจะไม่ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม จนกว่าหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐไปแล้วนั้น ทำให้ตลาดถอดความหวังบ้าง และมองว่าการเจรจาการค้ายังยืดเยื้ออยู่ นักลงทุนจึงเลือกที่จะลดความเสี่ยงก่อนในระหว่างรอดูรายละเอียดข้อตกลงการค้า
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ และยังอยู่ในช่วงรายงานผลประกอบการด้วย โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,572 จุด แนวต้าน 1,592 จุด
ทั้งนี้ ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยต้องดู NPL จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ และคุณภาพสินทรัพย์เป็นอย่างไร รวมถึงจับตาดีลซื้อกิจการ"เทสโก้ โลตัส"จะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 6,626.12 ล้านบาท ปิดที่ 92.00 บาท ลดลง 4.75 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 5,988.08 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,093.79 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,508.62 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,497.11 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 1.50 บาท