หุ้น SCB ปรับขึ้น 1.01% มาที่ 100 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 417.7 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.31 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 100 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 101 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 99.50 บาท
บล.เอเอสแอล แนะนำ"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แม้ปรับราคาเป้าหมายปี 63 ลงเป็น 113 บาท เนื่องจากแนวโน้มของคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนแอ สินเชื่อที่เติบโตในระดับค่อนข้างต่ำและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่การที่ SCB เปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายปันผลจากเดิมจะอยู่ในช่วง 30-50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม เปลี่ยนมาเป็นไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม สะท้อนให้เห็นแนวโน้มที่จะจ่ายปันผลมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 63 จ่ายปันผลไปแล้ว 1.50 บาท/หุ้น ล่าสุดประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 0.75 บาท/หุ้น ส่วนผลประกอบการครึ่งหลังปี 62 จากการปลดล็อกดังกล่าว ทำให้คาดว่า SCB จะจ่ายปันผลอีก 4.25 บาท/หุ้น ราวกลางเดือนเม.ย.63 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ราว 5% แต่อย่างไรก็ดี คาดว่าในช่วง 2-3 ปี จะจ่ายเพียงแค่ 35% จนกว่าผลของกลยุทธ์บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB10X) ที่มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด จะเริ่มสร้างกำไรและดันให้ ROE ปรับตัวขึ้นตามที่ SCB คาด
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปี 63 คาดว่า SCB จะมีกำไรสุทธิที่ 3.79 หมื่นล้านบาท หดตัวลง 6.1% จากปีก่อน จากการลดลงทั้งรายได้ดอกเบี้ย ที่ NIM ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนราว 4 bps เนื่องจากคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ปรับตัวลงแตกต่างจากเป้าหมายของ SCB ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่สูงและอีกส่วนคือฐานรายได้ประกันชีวิตหายไป ขณะที่ C/I ratio ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาการตัดจำหน่ายจากการลงทุนใน SCB Transformation อย่างไรก็ดี Credit cost ที่ลดลงราว 45 bps จะช่วยประคองผลการดำเนินงานในปีนี้