บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดขาย 2 กองทุน SCBDPLUS – SCBSPLUS 28 ม.ค.-3 ก.พ. เน้นสร้างรายได้ช่วงภาวะตลาดผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 27, 2020 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดขาย 2 กองทุน SCBDPLUS – SCBSPLUS 28 ม.ค.-3 ก.พ. เน้นสร้างรายได้ช่วงภาวะตลาดผันผวน

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความผันผวนของสภาพตลาดทั่วโลกที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าการจำกัดการลงทุนภายใต้สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง หรือการยึดติดกับกลยุทธ์การลงทุนแบบเดิมไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้น การเลือกลงทุนโดยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (Multi Asset) มีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงสินทรัพย์เดียวหรือลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่ง

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดขาย 2 กองทุน SCBDPLUS – SCBSPLUS 28 ม.ค.-3 ก.พ. เน้นสร้างรายได้ช่วงภาวะตลาดผันผวน

อีกทั้งการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีกระแสเงินสดสูง เข่น อสังหาริมทรัพย์ ยังช่วยสร้างกระแสเงินรับสม่ำเสมอระหว่างทางการลงทุนให้แก่พอร์ตลงทุนอีกด้วย กองทุนประเภท Multi-asset income เป็นกองทุนที่สามารถทยอยลงทุนได้ในทุกช่วงสภาวะของตลาด และเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง และต้องการรายได้ระหว่างทางจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการนำเสนอกองทุน Income Plus Series ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนที่ต้องการเป็นรายได้ระหว่างทางจากการลงทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ มัลติ อินคัมพลัส (SCBMPLUS) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัมพลัส (SCBPLUS) ที่มีนโยบายผสมสินทรัพย์ที่หลากหลาย เน้นบริหารเพื่อสร้างรายได้ระหว่างทางและมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนปัจจุบันทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่ารวมกว่า 81,590 ล้านบาท

บริษัทฯ จึงมีได้นำเสนอกองทุนในซีรีส์เดียวกัน อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Diversified Income Plus (SCBDPLUS) ที่ขายได้ทุกวันทำการ และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Smart Income Plus (SCBSPLUS) ที่ขายได้ทุก 6 เดือน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์นักลงทุนที่มีความต้องการด้านสภาพคล่องแตกต่างกันได้อย่างครบถ้วน โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 20,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 3 ก.พ. 2563 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 กองทุน เน้นลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในตราสารหนี้คุณภาพดี และกองทุนตราสารหนี้ชั้นนำ รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยเพิ่มกระแสเงินสดรับให้กับกองทุน เน้นบริหารกองทุนแบบยืดหยุ่นและมีการคัดกรองหลักทรัพย์คุณภาพเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างไม่มีข้อจำกัดและมีเสถียรภาพในระยะยาว อีกทั้งยังมีการบริหารความเสี่ยงควบคุมความผันผวนให้อยู่ในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ