LPH คาดรายได้ปี 63 โตทำนิวไฮ 2 พันลบ.จากเปิด Excellent Center-ประกันสังคมเพิ่มค่าหัว-ผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2020 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

LPH คาดรายได้ปี 63 โตทำนิวไฮ 2 พันลบ.จากเปิด Excellent Center-ประกันสังคมเพิ่มค่าหัว-ผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น

นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 2 พันล้านบาท หรือเติบโต 25-30% จากปีก่อน จากคาดการณ์ผู้ป่วยเงินสดที่คาดว่าจะเติบโตได้กว่า 30% รวมถึงศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) ที่เปิดให้บริการครบทั้ง 10 ศูนย์ คาดว่าจะมีผู้ป่วยทั่วไปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้รายได้ในส่วนนี้จะเติบโตราว 20-30%

ขณะเดียวกันคณะอนุกรรมการแพทย์ได้พิจารณาอนุมัติปรับเพิ่มค่าหัวประกันสังคมที่จ่ายให้โรงพยาบาลในเครือประกันสังคมในส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีก 10% หรือประมาณ 140 บาท จากเดิมจ่ายให้ประมาณ 1,500 บาท/หัว/ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 นับเป็นผลดีต่อ LPH เพราะคาดว่ารายได้ในส่วนของผู้ป่วยประกันสังคมจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ซึ่งยังไม่รวมโควตาใหม่ที่ปีนี้โรงพยาบาลลาดพร้าว ได้ยื่นขอโควตาเพิ่มอีก 1 หมื่นคน จากปัจจุบัน มีผู้ประกันตนประมาณ 161,000 คน หากได้รับการอนุมัติจะทำให้ในปี 63 โรงพยาบาล ลาดพร้าว มีผู้ประกันตนเพิ่มเป็น 170,000 คน ขณะที่สัดส่วนรายได้ปีนี้ยังคงเดิม แบ่งเป็น ผู้ป่วยประเภทเงินสด 60% และรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม 40%

อีกทั้งยังมีการมองโอกาสขยายสัดส่วนฐานคนไข้ต่างชาติ เช่น คนไข้ชาวอาหรับ กลุ่ม CLMV ซึ่งโรงพยาบาลได้รับผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้มาดูแลโดยเฉพาะ จึงเชื่อว่าจะมีโอกาสเพิ่มคนไข้ชาวอาหรับได้ จากปัจจุบันที่บริษัทมีสัดส่วนคนไข้ต่างชาติเพียงเล็กน้อย รวมถึงปีนี้จะปรับระบบการรักษาพยาบาลและการดูแลคนไข้ที่เป็นคนไทย ให้เสมือนคนไข้ต่างชาติ โดยจัดทำโครงการ"โรงพยาบาลคุณภาพ คู่คุณธรรม" และขอมาตรฐานสากล JCI ครบทุกศูนย์

"ปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีของโรงพยาบาล ลาดพร้าว เนื่องจากศูนย์ Excellent Center เปิดให้บริการครบทั้ง 10 ศูนย์ ทำให้มีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้ป่วยที่ชำระเงินสด ขณะที่รายได้เหมาจ่ายจากประสังคมจะเพิ่มขึ้น 5% รวมทั้งรายได้จากคนไข้ต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ในเรื่องราคาค่ารักษาพยาบาลเราอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเรามีต้นทุนด้านบุคลากรที่ต้องปรับค่าตัวขึ้นทุกปี เราอยู่ใน Green Hospital และ Price List ของกระทรวงพาณิชย์ ราคาค่ารักษาของ รพ.ลาดพร้าวไม่ได้สูงมาก เราอยู่ระดับกลางๆ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกในการสนับสนุนรายได้รวมปีนี้เป้าหมายจะทำนิวไฮแตะ 2,000 ล้านบาท และส่งผลต่อกำไรที่คาดว่าจะดีขึ้น จากการควบคุมต้นทุนต่างๆได้ดี"นายอังกูร กล่าว

นายอังกูร กล่าวว่า บริษัทจะยังเดินหน้าในการให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ (Check Up) ในปีนี้ได้มีการปรับแผนซึ่งจะเน้นเรื่องของคุณภาพและบริการการตรวจมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากกลุ่มดังกล่าวนี้ โดยปี 63 นี้มีการเตรียมพร้อมด้านบุคลากร ทีมการตลาดของเราเอง และตั้งทีม Out Source ที่มีคุณภาพมาดูแล คาดว่าจะมีการให้บริการลูกค้าที่ตรวจสุขภาพนอกสถานที่ได้ถึง 2 แสนราย วางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 150 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าตลาด Check Up ยังมีโอกาสโตได้อีก จากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นและอยู่ในกฎหมายแรงงานที่กำหนดให้พนักงานต้องตรวจสุขภาพทุกปี

อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนก่อสร้างอาคารใหม่ จำนวน 3 อาคาร ในพื้นที่โรงพยาบาลลาดพร้าวเดิม โดยอาคารแรกจะเป็นอาคารจอดรถอัจฉริยะ 400 คัน อาคารที่ 2 จะเป็นโรงพยาบาลด้านตา และอาคารสุดท้ายจะเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านหัวใจ ปอดและไต ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างขอเจรจาพันธมิตรพร้อมทีมแพทย์เชี่ยวชาญเพื่อมาดูแลในส่วนนี้ คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างทั้ง 3 อาคารในช่วงไตรมาสที่ 3/63 นี้ ส่วนแผนการลงทุนโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา อยู่ในระหว่างทบทวนอีกครั้ง เพื่อพิจารณาปัจจัยรอบด้านประกอบ ทั้งความสามารถในการให้บริการบริเวณนั้น ภาพรวมเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องอีกที

ส่วนการเข้าลงทุนในโรงพยาบาลตรวจสุขภาพในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปมูลค่าการลงทุน แผนธุรกิจในอนาคตเสนอคณะกรรมการบริษัท ในเดือน ก.พ.นี้ สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท รายได้หลักจากห้องพยาบาล และการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ สัดส่วนรายได้ 50:50

ด้านบริษัทลูก บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) หลังจากงบปี 2562 ออกมาประเมินว่าน่าจะมีผลกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินการมา โดยในปีนี้ตั้งเป้ากำไรเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากการขยายตัวของงานภาครัฐและการขยายมาตรฐานที่ได้ขออยู่อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ในปีนี้จะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30% ในส่วนของภาครัฐมีการส่งงานมาให้เราตรวจต่อเนื่องและภาคเอกชนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีพันธมิตรระดับโลกเข้ามาเจรจาขอเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งมองเห็นการขยายตัวในไทยและกลุ่ม CLMV ในอนาคต หากมีการตกลงข้อเสนอกันได้ จะเป็นผลดีทำให้ AMARC เติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยได้วางเป้าหมายจะเป็น "Excellence Lab" ระดับประเทศและเอเชียในอนาคต สำหรับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนเดิมที่วางไว้ ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ