บลจ.กสิกรไทย-วรรณ ชวนลงทุนกองทุนหุ้นไทย หลังคาดไวรัสโคโรนาระบาดกระทบระยะสั้น ชูกองปันผล-ขนาดใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2020 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.กสิกรไทย และบลจ.วรรณ ชวนลงทุนกองทุนหุ้นไทย หลังมองการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีนจะกระทบตลาดในระยะสั้น ขณะที่สภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และราคาหุ้นปรับลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นฐาน โดยแนะนำทยอยสะสมลงทุนในกองทุนหุ้นปันผลสูงและขนาดใหญ่

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตั้งแต่เริ่มมีความกังวลต่อข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ลุกลาม และพบผู้ติดเชื้อจำนวนเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนค่อนข้างมีความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวของไทย โดยภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นประมาณ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนมากถึง 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 62 และ 30-40% เป็นกรุ๊ปทัวร์

อย่างไรก็ตามทางการจีนมีระบบการจัดการที่รวดเร็วกว่าในอดีต อาทิ มีการประกาศปิดระบบการคมนาคมเข้า-ออกในเมืองอู่ฮั่น และในอีกหลายเมืองที่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การสั่งห้ามทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ เป็นต้น ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการพัฒนาและมีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดีกว่าในอดีต ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

"ในระยะสั้นดัชนีหุ้นไทยอาจยังคงมีความผันผวนจากความกังวลของผู้ลงทุนและข่าวที่เข้ามากระทบ แต่หากสถานการณ์สามารถควบคุมได้ภายใน 2-3 เดือน ดัชนีตลาดในระดับ 1,500 จุด น่าจะสะท้อนความกังวลไประดับหนึ่งแล้ว ส่วนในระยะยาวการลงทุนในหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่า SET Index ในปีนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1,700 จุด"นางสาวธิดาศิริ กล่าว

นางสาวธิดาศิริ กล่าวว่า สำหรับผู้ลงทุนที่รับความผันผวนและสามารถลงทุนในระยะยาวได้ จังหวะนี้เป็นโอกาสทยอยเข้าลงทุนในกองทุนหุ้นไทย โดยบลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และสภาพคล่องในระบบมีอยู่สูง ประกอบกับราคาหุ้นไทยที่ปรับลงมาในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจในเชิงเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตามหากผู้ลงทุนไม่สามารถรับความผันผวนได้ หรือ ลงทุนในกองทุนหุ้นไทยไปบางส่วนแล้ว แนะนำให้ถือต่อและรอประเมินสถานการณ์

ด้านนายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า การลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกต่อเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะนี้ยังไม่ได้รับกระทบโดยตรง แต่แนวโน้มกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวจีนชะลอตัวลงในระยะสั้น ซึ่งจะมีผลต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งให้ปรับตัวลดลง โดยคาดการณ์ว่า ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P500 และดัชนีตลาดหุ้นยุโรป EUROSTOXX 600 มีโอกาสปรับตัวลดลงประมาณ 3-5% นับจากวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่คาดการณ์ว่า ดัชนีตลาดหุ้นจีนมีโอกาสปรับตัวลงประมาณ 6-8% อย่างไรก็ดียังมีมุมมองการคาดการณ์ทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นดังกล่าว จากการวิเคราะห์บนสมมติฐานการรับมือที่ดีของรัฐบาลจีนในปัจจุบันและอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำกว่าหากกับในอดีต

"ในเชิงของการลงทุนของตลาดหุ้นนั้น ปัจจุบันยังเป็นผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์โรคระบาดดังกล่าว แต่หากให้กล่าวถึงผลกระทบในเชิงของเศรษฐกิจต้องยอมรับว่า มาตรการฉุกเฉินของรัฐบาลจีนทั้งระงับระบบขนส่งสาธารณะและห้ามกรุ๊ปทัวร์ออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันแพร่ระบาดก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนรวมทั้งเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการจับจ่ายในภาคครัวเรือน อย่างไรก็ดีในระยะถัดจากนี้ มองว่า หากโรคดังกล่าวมีแนวทางที่คลี่คลายลง ทางรัฐบาลจีนอาจจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจในช่วงนี้ ซึ่งก็จะมีผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นจีน แต่หากวิเคราะห์ในแง่มุมของการลงทุนในตลาดหุ้นวิกฤตการแพร่ระบาดครั้งนี้ มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวลดลงน้อยกว่าหากเทียบกับสถานการณ์ระบาดของโรค SARS ซึ่งขณะนั้นดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลงประมาณ 13% โดยเป็นการเก็บข้อมูลจาก Morgan Stanly"นายพจน์ กล่าว

นายพจน์ กล่าวว่า ในส่วนของมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยนั้น มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมเช่นกัน ผ่านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ค้าปลีก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ สายการบิน กลุ่มโรงพยาบาลและธุรกิจโรงแรม ที่ในระยะสั้นถูกผลกระทบจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่อาจจะลดลงในระยะสั้นได้ ทั้งนี้ บลจ.วรรณ มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,560 จุด

สำหรับนักลงทุนที่สนในตลาดหุ้นไทยและยังมีสภาพคล่อง แนะนำให้"ทยอยสะสม"ในกลุ่มหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ หุ้นในกลุ่มหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูงและลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ โดยกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.วรรณ ได้แก่ กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE-SETHD) กองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50(1AMSET50-RA) ขณะที่คำแนะนำของตลาดหุ้นตลาดต่างประเทศแนะนำ กองทุนเปิด วรรณ ดิสคัฟเวอรี่ หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป RA (ONE-DISC-RA) กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG) ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำให้ชะลอการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ