ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกสินเชื่อตึงตัว ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 214.60 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและอัตราการยึดบ้านหลุดจำนองที่ปรับตัวสูงขึ้นในสหรัฐ อาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของบริษัทในสหรัฐด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 214.60 จุด หรือ 1.75% แตะระดับ 12,040.39 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 29.35 จุด หรือ 2.20% แตะระดับ 1,304.35 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดรูดลง 52.31 จุด หรือ 2.30% แตะระดับ 2,220.50 จุด 
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.62 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.23 พันล้านหุ้น
          แจ็ค แอ็บลิน นักวิเคราะห์แฮร์ริส ไพรเวท แบงค์ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "ความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อเกิดขึ้นหลังจากบริษัทธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ และบริษัทคาร์ลิล กรุ๊ป ซึ่งเป็นกองทุนพันธบัตร เปิดเผยตัวเลขขาดทุนในตลาดกู้จำนอง"
          "ขณะที่สมาคมผู้ว่าการธนาคารปล่อยกู้จำนองแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการยึดบ้านที่หลุดจำนองปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้สถาบันการเงินลังเลที่จะเพิ่มวงเงินกู้ให้กับลูกค้า และยิ่งทำให้ตลาดสินเชื่อเคลื่อนไหวอย่างไม่ปกติ" แอ็บลินกล่าว
          ขณะที่โธมัส เจ ลี นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน แสดงความเห็นว่า "ภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตลาดถูกกระหน่ำด้วยปัจจัยลบมากมาย ไม่จะเป็นข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอแต่กลับมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเช่นนี้อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะ Stagflation"
          นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร หลังจาก ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 40,000 อัตราในเดือนธ.ค. 2550 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30,000 อัตรา
          รายงานของ ADP ไม่ได้รวมข้อมูลจ้างงานของรัฐบาลไว้ แต่หลังจากที่ได้รวมข้อมูลการจ้างงานของรัฐบาลเข้าไว้ด้วยราว 19,000 อัตราแล้วคาดว่า อัตราจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 59,000 อัตราในเดือนธ.ค.
          ยอดขายที่ย่ำแย่ของบริษัทค้าปลีกหลายแห่งได้ฉุดหุ้นในกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นเจ.ซี.เพนนีย์ ดิ่งลง 11.10% แต่หุ้นวอล-มาร์ทสามารถดีดตัวขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 49.98 ดอลลาร์
          ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 4.4% หุ้นเมอร์ริล ลินช์ รูดลง 7% และหุ้นวอชิงตัน มิวช่วล อิงค์ ปรับตัวลง 8.1%