ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากปัจจัยลบจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 214.60 จุด หรือ 1.75% แตะระดับ 12,040.39 จุด เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและจากข่าวการผิดนัดชะรำหนี้ที่เกิดขึ้นในบริษัทธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ และบริษัทคาร์ลิล กรุ๊ป ซึ่งเป็นกองทุนพันธบัตร นอกจากนี้ สมาคมธนาคารด้านปล่อยกู้จำนองแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการยึดบ้านที่หลุดจำนองปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ชาวสหรัฐมียอดหนี้กู้เงินจำนองบ้านเพิ่มขึ้นเกินระดับสมดุลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ธนาคารกลางเริ่มบันทึกข้อมูลตัวเลขดังกล่าวในปี 2488 "เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อนั้น และเฟดอาจออกมาตรการเพิ่มเติม หากตลาดสินเชื่อสหรัฐซบเซาลงมากกว่านี้" เวสท์คอมบ์ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายของเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.75% ในที่ประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มี.ค.นี้ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลบ 51.64 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ระดับ 2,866.28 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.39 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.67 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์