(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงหลังสัญญาณเทคนิคเป็นขาลง ยังกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 19, 2020 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อยู่หลังจากที่หลุดแนว 1,522 จุด ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นขาลง และวันนี้หุ้น ADVANC ก็จะขึ้นเครื่องหมาย XD ก็มีผลต่อดัชนีฯด้วย ประกอบกับช่วงนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมามากขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากจะโดน Sentiment ในทางลบ ซึ่งเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ สู่ระดับ 5.2% จากเดิมที่ระดับ 5.8%

พร้อมให้แนวรับ 1,505-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,522 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ก.พ.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,232.19 จุด ลดลง 165.89 จุด (-0.56%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,370.29 จุด ลดลง 9.87 จุด (-0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,732.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด (+0.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 135.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 43.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 6.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.59 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.14 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.90 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ก.พ.63) 1,513.68 จุด ลดลง 13.57 จุด (-0.89%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,443.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ก.พ.63) ปิดทรงตัวที่ระดับ 52.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ก.พ.) อยู่ที่ 3.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.20 ทรงตัวจากวานนี้ จับตากระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย มองกรอบวันนี้ 31.15-31.25
  • ครม.อนุมัติต่อสัญญาสัมปทาน 15 ปี 8 เดือนให้ "บีอีเอ็ม" ยาวถึงปี 2578 เพื่อแลกไม่จ่ายค่าแพ้คดี 7.86 หมื่นล้าน จ่อเซ็นก่อน 28 ก.พ.นี้ "วิษณุ" ชี้เป็นการเซ็ตซีโร่ปิดจุดอ่อนข้อพิพาทใหม่ "สุรงค์" ยืนยันไม่มีข้อผูกพันสร้างทางด่วนชั้นที่ 2
  • ศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน ประเมินผลกระทบไวรัสโคโรนา ต่อเศรษฐกิจไทย กรณีจีนคุมการระบาดไวรัสใน 3 เดือน คาดนักท่องเที่ยวจีนหาย1.6ล้านคน ฉุดจีดีพี -0.4% หากลากยาว6เดือนคาดนักท่องเที่ยวหาย3.5ล้านคน ฉุดจีดีพี-1.0% ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ SCB ระบุ อีไอซีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 เหลือโต 1.8% ขณะที่ศูนย์ วิจัยกสิกรไทยคาดปี 63 ยังสามารถขยายตัวได้ 2.0%
  • กลุ่มปตท. "อ่วม" คาดกำไร ปี62 ลดลง 24.34% อยู่ที่ 1.64 แสนล้าน เหตุขาดทุนสต็อกน้ำมันธุรกิจปิโตรเคมี-โรงกลั่นฉุด "บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี" มองปีนี้ฟื้น กำไรแตะ 1.78 แสนล้านบาท เติบโต 14% ทุกธุรกิจ ปรับตัวดีขึ้น ไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมัน
  • สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมฯ (สสว.) เล็งลดเป้าจีดีพีเอสเอ็มอี โตไม่ถึง 3-3.5% ผลพวงพิษ โควิด-19 กดท่องเที่ยวหาย กระทบชิ่งผู้ประกอบการในระบบ 58% ไตรมาสแรกเป้าวืดต่ำกว่า 2.5% แน่นอน เตรียมมาตรการ ช่วยเหลือ-รุกตลาดใหม่
  • "ธปท." เล็งทบทวนประมาณการจีดีพีไทยปี 2563 ใหม่หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว-อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ไทยพาณิชย์หั่นจีดีพีปีนี้เหลือโต 1.8% จากเดิม 2.1% กระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่คาดไว้
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือโต 1.8% จากเดิม 2.1% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) มีแนวโน้มรุนแรงและน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่คาดไว้เดิมผ่านการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และยังอาจส่งผลต่อการลดลงของการเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยของคนไทยอีกด้วย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากเรื่อง Supply chain disruption ที่อาจส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของการส่งออกไทยเพิ่มเติมได้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BEM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 12 บาท ได้ข่าวดี ครม.มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาสัมปทานทางด่วนให้กับ BEM ออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน เพื่อยุติข้อพิพาทกับการทางพิเศษฯ ปลดล็อก Over hang ให้กับ BEM เพราะสัญญาณสัมปทานทางด่วนเดิมจะหมดอายุสัญญาในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากไม่ได้รับการต่อสัญญาจะกระทบรายได้ BEM อย่างมีนัยสำคัญ เพราะทางด่วนส่วนนี้สร้างรายได้ให้ BEM คิดเป็น 50-60% ของรายได้รวม
  • INTUCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 78.50 บาท จะขึ้น XD วันที่ 25 ก.พ. จำนวน 1.30 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 2.3% จ่ายเงิน 23 เม.ย. ทั้งนี้ ผลประกอบการของ INTUCH ขึ้นกับ ADVANC เป็นหลัก การประมูล 5G ของ ADVANC ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการแข่งขันมากที่สุดเพราะมีคลื่นความถี่ครบในปริมาณมากพอรองรับความต้องการในอีก 10 ปีข้างหน้า ดีต่อ INTUCH ทั้งในด้านกำไรและเงินปันผลรับจาก ADVANC

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ