(แก้ไข) COM7 ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 10% จากการขยายอีก 168 สาขา-สินค้า 5G หนุนช่วง Q4/63, แผนร่วมทุน BTS ชัดครึ่งปีหลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 21, 2020 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 10% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 33,362.5 ล้านบาท จากการขยายสาขาเพิ่มอีก 168 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขาอยู่ที่ 787 สาขา และมีการปรับโฉมสาขาใหม่ในบางสาขาให้ทันสมัยอีกประมาณ 40 สาขา วางงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท รวมถึงการนำสินค้าเข้ามาเสริมพอร์ตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้า Gadget และ IoT

ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมรุกหนักการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากการก่อสร้างคลังสินค้าออนไลน์น่าจะแล้วเสร็จได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/63 ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3/63 ขณะที่ไตรมาส 4/63 ก็มีแผนที่จะโปรโมทอย่างหนัก โดยตั้งเป้ายอดขายออนไลน์น่าจะเติบโตเป็น 100% ในปี 64 และน่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ของรายได้รวมในอีก 2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันยังไม่ถึง 2%

นอกจากนี้มองว่าจากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการประมูลคลื่นความถี่ 5G ทำให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าเข้าสู่การพัฒนาเทคโนโลยี 5G ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดีในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี ทั้งโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่, สินค้ากลุ่ม IoT ต่างๆ โดยมองว่าสินค้าดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อยอดขายบริษัทฯ ได้ในช่วงไตรมาส 4/63 และจะเติบโตอย่างมากในปี 64

สำหรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่มีผลต่อการผลิตสินค้าจากจีนถูกจำกัด ทำให้ซัพพลายหายไป และดีมานด์ลดลง บริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบ ณ ขณะนี้ และไม่ได้กังวลมากนัก เนื่องจากยังมีสินค้ารองรับความต้องการซื้ออย่างเพียงพอ หลังมีการกักตุนสินค้าไว้ล่วงหน้าไว้ค่อนข้างมากตั้งแต่ปลายปี 62 เพื่อวางขายในช่วงเทศกาลตรุษจีน เห็นได้จาก inventory ที่อยู่ที่ 4,975 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการผลิตจากจีนจะกลับมาได้ตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.นี้ เป็นต้นไป

ส่วนผลกระทบจากจำนวนคนที่เดินห้างสรรพสินค้าลดลง โดยมีปัจจัยมาจากลูกค้ากลุ่มทัวร์ที่หายไป ซึ่งในเดือนม.ค.63 ยอดขายของบริษัทฯ ยังดีอยู่ ส่วนเดือนก.พ.63 แม้ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายที่ห้างสรรพสินค้าในจ.นครราชสีมา แต่หลังจากห้างสรรพสินค้าดังกล่าวกลับมาเปิดให้บริการ ยอดขายของสาขาบริษัทฯก็กลับมาดีขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวมากนัก

"ภาพรวมปีนี้เรามองว่ายังมีการเติบโตต่อเนื่องได้อยู่ และยังไม่เห็นผลกระทบรุนแรงที่จะหยุดการขยายสาขา แต่ด้วยปัจจัยลบที่มีเพิ่มขึ้น อาจทำให้เราทำงานได้ยากขึ้น แต่เราก็ยังมั่นใจว่าด้วย Business model ที่เรามีอยู่กับกลยุทธ์ที่เราจะเดินหน้าไป เราจะเติบโตได้อยู่"

นายสุระ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ คาดแผนร่วมทุนในการทำธุรกิจกับบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 63 อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนและผู้บริหารระดับสูงไม่มีแผนขายหุ้นเพิ่มเติม โดยส่วนตัวยังถือหุ้นอยู่ที่ 25%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ