CPNREIT กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น 32.00-33.00 บาท/หน่วย เข้าลงทุนศูนย์ 5 แห่ง-จีแลนด์ราว 5.6 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 24, 2020 12:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวพิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) เปิดเผยว่า CPNREIT ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์และแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) เพื่อเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยจะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สิน 6 แห่ง พร้อมทั้งต่ออายุสัญญาเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 55,990 ล้านบาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)

ปัจจุบันแบบไฟลิ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยภายหลังจากคำขอได้รับการอนุมัติและมีผลใช้บังคับแล้ว ผู้จัดการกองทรัสต์จะแจ้งรายละเอียดวันจองซื้อให้ทราบต่อไป

ด้านางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า ในการจัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมระหว่าง 32-33 บาทต่อหน่วย

พร้อมกันนี้ได้กำหนดอัตราส่วนการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ที่ 4.4319 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT และอัตราส่วนการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่ 3.0034 หน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT โดยสามารถจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมตามสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือเกินกว่าสิทธิก็ได้

ส่วนผู้ถือหน่วยทรัสต์ CPNREIT และ GLANDRT ที่จะได้รับสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมดังกล่าว ต้องเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมถึงสิ้นวันทำการก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XB ในวันที่ 25 ก.พ.63

ทั้งนี้ CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สิน 2 กลุ่ม ได้แก่ การเข้าลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 จำนวน 4 แห่ง พร้อมต่ออายุสัญญาเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 จากกลุ่ม บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 48,560 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. โครงการเซ็นทรัลมารีนา (พัทยา) โดยลงทุนในสิทธิการเช่า/เช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่างานระบบ ระยะเวลาประมาณ 15 ปี (สิ้นสุด 30 เม.ย.78) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ 2. โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง โดยลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 22 ปี (สิ้นสุด 16 ธ.ค.84) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์

3. โครงการเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี โดยลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (นับจากวันที่เริ่มระยะเวลาเช่า) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ 4. โครงการเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี โดยลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่างานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (นับตั้งแต่เริ่มระยะเวลาเช่า) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ และ 5. โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 (ช่วงต่ออายุ) โดยลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่างานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (ตั้งแต่ 16 ส.ค.68-15 ส.ค.98)

พร้อมแต่งตั้ง CPN เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 โดย ณ วันที่ 30 ก.ย.62 ทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 ทั้ง 5 แห่ง มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 95%

ขณะเดียวกัน จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 โดยการรับโอนทรัพย์สิน 2 แห่งจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงานจีแลนด์ (GLANDRT) มูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7,430 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการอาคารสำนักงานเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส โดยการรับโอนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาคงเหลือประมาณ 27 ปี (สิ้นสุด 18 เม.ย.90) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และ 2. โครงการอาคารสำนักงานยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ โดยรับโอนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาคงเหลือประมาณ 15 ปี (สิ้นสุด 14 พ.ย.77) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ณ วันที่ 30 ก.ย.62

สำหรับทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 ทั้ง 2 แห่ง มีอัตราเช่าพื้นที่เต็ม 100% และจะแต่งตั้ง บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) และบริษัท สเตอร์ลิง อีควิตี้ จำกัด (บริษัทย่อยของ GLAND) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการในทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 ต่อไป

ผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวอีกว่า แหล่งเงินทุนที่ CPNREIT จะใช้ลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 และ/หรือทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 และ/หรือเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการระดมทุนและลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (ไม่รวมการชำระค่าเช่าโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ช่วงต่ออายุ) จะมาจาก 1) เงินกู้ธนาคาร และ/หรือสถาบันการเงิน และ/หรือการออกและเสนอขายหุ้นกู้ รวมวงเงินไม่เกิน 13,500 ล้านบาท และ 2) การเพิ่มทุนของ CPNREIT โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า การเข้าลงทุนเพิ่มเติมของ CPNREIT จะส่งผลดีต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นและยังเป็นการกระจายสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายในหลายทำเลที่มีศักยภาพ โดยยังคงเน้นการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ ปัจจุบัน CPNREIT เป็นกองทรัสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่มีทรัพย์สินคุณภาพดีและเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทรัสต์ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและตลาดทุนที่มีความผันผวน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ