STC คาดผลงานปีนี้ทำนิวไฮ ตั้งเป้ารายได้โต 10% รับอานิสงส์ลงทุนพื้นที่พัทยา-ภาค ตอ.ตุน backlog ราว 500-600 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 24, 2020 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยว่า ในปี 63 คาดว่าบริษัทยังคงสร้างสถิติใหม่ทั้งรายได้และกำไร โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 10% จากปีก่อน ด้วยอานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชนอย่างต่อเนื่องในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และภาคตะวันออก สอดรับกับนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สนับสนุนให้ STC มีโอกาสรับงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นของโรงงานที่มีการขยายกำลังการผลิตรอไว้แล้วในทำเลยุทธศาสตร์ใจกลางเมืองพัทยา ทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน และการบริหารจัดการต้นทุน อีกทั้งความไว้วางใจจากคู่ค้าและพันธมิตร ทำให้ปัจจุบันมีออเดอร์ของลูกค้าที่จ่อเข้ามารอไว้บางส่วนแล้ว

ณ สิ้นปี 62 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 500-600 ล้านบาทส่วนใหญ่เป็นงานประเภทสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งจะทยอยรอรับรู้รายได้ในปี 63 เป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปี 64 สนับสนุนให้ STC เดินหน้าสร้างการเติบโตที่ดี ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้ โดยสัญญาณผลงานในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 1/63 ผ่านลุล่วงไปได้ดีกว่าคาด มีการทยอยส่งมอบงานตามแผนการที่วางไว้ และการเดินหน้ารับงานใหม่เพิ่ม

สำหรับผลประกอบการปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 422.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.79% จากปีก่อนที่มีรายได้ 380.95 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นรวม 133.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.19% จากปีก่อน 104.51 ล้านบาท กำไรสุทธิ 25.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.23% จากปีก่อนที่มีกำไร 15.41 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นปี 62 เทียบกับปี 61 อยู่ที่ 32.05% และ 27.54% ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.11% และ 4.05% ตามลำดับ

การเติบโตในครั้งนี้สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการผลิตและจำหน่ายคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.47% หรืออยู่ที่ 302.77 ล้านบาท และเป็นสัดส่วนรายได้หลักราว 72% ของรายได้รวม เนื่องจากได้รับงานเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งงานนิคมอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น รับปัจจัยบวกจากการลงทุนในโครงการ EEC ที่เริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้เกิด Economy of Scale ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้งานภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวในปีนี้ แต่เชื่อว่า เมื่อการลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ จะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว และมีโอกาสเติบโตอีกมาก ส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

ประกอบกับ STC ผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปตามความต้องการลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงได้ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้แก่ลูกค้างานโครงการทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ประกอบกับ การขยายการลงทุนของภาคเอกชน ทำให้อัตรากำไรผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นในผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป 32.61% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ 31.06% และอัตรากำไรขั้นต้นจากการบริการ 20.62% ทั้งนี้ แม้ในปี 2562 STC มีค่าใช้จ่ายตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ และค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ยังสามารถรักษาความสามารถการทำกำไรที่โดดเด่นต่อเนื่องได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ