(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามตลาดตปท. หลังหลายธนาคารกลางเล็งออกมาตรการช่วยประคองเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 3, 2020 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันเฉลี่ยกว่า 1% หลังเมื่อคืนนี้ดาวโจนส์พุ่งแรง 5% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกอยู่ หลังจากที่หลายธนาคารกลางออกมาระบุว่าพร้อมที่จะออกมาตรการมาช่วยประคองเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี ยังมองเป็นแค่การรีบาวด์ เนื่องจากยังไม่มียาที่จะรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างจริงจัง พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,346-1,366 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มี.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,703.32 จุด พุ่งขึ้น 1,293.96 จุด (+5.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,090.23 จุด เพิ่มขึ้น 136.01 จุด (+4.60%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,952.17 จุด เพิ่มขึ้น 384.80 จุด (+4.49%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 307.91 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 35.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 127.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 109.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 49.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 24.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 9.36 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 105.62 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มี.ค.63) 1,335.72 จุด ลดลง 4.80 จุด (-0.36%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,300.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มี.ค.63) ปิดที่ 46.75 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.99 ดอลลาร์ หรือ 4.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.) อยู่ที่ 2.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.53/54 อ่อนค่าจากวานนี้ มองกรอบวันนี้ 31.40-31.60 นลท.ยังเกาะติดสถานการณ์การระบาดโควิด-19
  • "คลัง" เตรียมเสนอ ครม. ออก "มาตรการชุด" อุ้มผู้ประกอบการที่โดนผลกระทบ "โควิด-19" ดัน "ออมสิน" ปล่อยกู้ซอฟท์โลน "แสนล้าน" ช่วยภาคธุรกิจ ย้ำยังไม่เสนอแผนกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงนี้ เหตุคนยังอยู่ในอารมณ์กังวลการแพร่ระบาด พร้อมปัดข้อเสนอต่ออายุ "กองแอลทีเอฟ" เพื่อพยุงหุ้น ด้าน "พิพัฒน์" เล็งถก "บิ๊กตู่" นอกรอบ ดันแพ็คเกจเสริมกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหม่ เสนอ ครม. ไฟเขียวสัปดาห์หน้า
  • "สนธิรัตน์" เตรียมเสนอ กพช. เดือน มี.ค.นี้ ลดเป้าหมายส่งเสริมโซลาร์ภาคประชาชนลง หลังปี 62 วืดเป้า 100 เมกะวัตต์ เสนอขายแค่ 3 เมกะวัตต์ เผยปีนี้หั่นเหลือ 47 เมกะวัตต์ ด้าน ดีลเลอร์ชงเลิกขายน้ำมัน 3 ชนิด ดัน E20 สู่น้ำมันพื้นฐานต่อจาก B10
  • "นอนแบงก์" เผยยอด ใช้จ่ายผ่านบัตร 2 เดือนแรกปีนี้ "ชะลอตัว" ทุกหมวด เหตุผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย แถม วงเงินผ่อนขั้นต่ำลดลงเพื่อตุนสภาพคล่องดันเอ็นพีแอลเร่งตัวขึ้น หลายแห่งเร่งออกมาตรการช่วยลูกค้า
  • สำนักงาน กสทช. นัดแก้ไขปัญหาคลื่น 2600 MHz รบกวนการเดินรถไฟฟ้า เชิญกรมการขนส่งทางราง BTS AIS รฟม. และ BEM ไทยคม ชี้ใครยังดูทีวีไม่ได้ให้ติดต่อผู้ให้บริการ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 146 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัว (+4.5%) และผลประกอบการ Q1/63 คาดผันผวนน้อยสุดในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงกลั่นที่คาดว่าในไตรมาสนี้ยังมีความเสี่ยงจากการขาดทุนสต็อกน้ำมันดิบ
  • BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ทยอยสะสม"เป้า 11.50 บาท กำไรปกติปี 2562 ที่ -4% ต่ำกว่าคาด เพราะค่าซ่อมแซมทางด่วนและรายจ่ายช่วงแรกของการเปิดสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่สูงขึ้น แต่รายได้เข้าไม่เต็มที่ ส่วนปี 2563 คาดกำไรปกติ +54% Y-Y เป็น 4.5 พันล้านบาท จากการเก็บค่าโดยสารสายสีน้ำเงินเต็มเส้นตั้งแต่ 31 มี.ค. และค่าเสื่อมของทางด่วนลดลงราว 2 พันล้านบาทต่อปี หลังขยายสัมปทาน BEM ยังมีโอกาสประมูลรถไฟฟ้าสายอื่น เช่น สีส้ม (งานก่อสร้างด้านตะวันตกและเดินรถตลอดเส้น) 1.2 แสนล้านบาทที่จะประมูล Q2/63
  • JWD (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท กำไรปกติ Q4/62 ดีกว่ากว่าคาดที่ 122 ล้านบาท +61% Q-Q, +34% Y-Y จาก demand ในธุรกิจคลังสินค้าอันตรายและสินค้าอาหารแช่เย็นซึ่งมีมาร์จิ้นสูง เพิ่มสูงขึ้น และส่วนบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2562 +52% Y-Y ผลของ COVID-19 กระทบจำกัด ลูกค้าต้องการเช่าคลังสินค้านานขึ้น เบื้องต้นยังคาดกำไรปีนี้ +5% Y-Y ปัจจุบันมี P/E 16 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 21 เท่า แต่ re-rate P/E ลงมาเท่ากับกลุ่มที่ 20 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ