บล.ไอร่า คาด SET มี.ค.ลงต่อจากวิตกไวรัสระบาดทั่วโลก แนะขายลดเสี่ยงหากรีบาวด์หลังเฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 4, 2020 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิจัยบล.ไอร่า ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน มี.ค.63 ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้ตลาดอยู่ในสภาวะ Risk-off พร้อมความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยไตรมาส 1/63 มีโอกาสชะลอตัวรุนแรง และแนวโน้มการปรับประมาณการกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) ของตลาดลงหลังผลประกอบการไตรมาส 4/62 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

รวมถึงแรงกดดันต่อกลุ่มธนาคารทั้งจากการปรับเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียม ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและกลุ่มลูกค้าเกือบทั้งหมด และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 25 มี.ค. นี้ จากก่อนหน้ามีความกังวลต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา

ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแบบฉุกเฉิน 0.5% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.00-1.25% เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนการประชุมรอบปกติในวันที่ 17-18 มี.ค.63

อย่างไรก็ตาม ตลาดมีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้บ้าง หลังดัชนีปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกเล็ก ๆ ได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถชดเชยปัจจัยกดดันข้างต้น ทำให้มองเป็นโอกาสในการขายลดความเสี่ยงเมื่อตลาดหุ้นดีดตัว โดยทางเทคนิคมีแนวรับแรกที่ 1,290 จุด และแนวรับถัดไป 1,250 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,400 จุด และแนวต้านถัดไป 1,460 จุด

ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมในวันที่ 25 มี.ค.นี้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความตระหนกให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยังคงต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมัน คาดว่ามีโอกาสปรับขึ้นได้ หากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายระยะเวลาการลดการผลิตออกไปจากเดิมครบกำหนดเดือน มี.ค.นี้

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนเป็นชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยเข้าสู่โหมด Wait and See และถือเงินสดหรือทองคำไว้ในพอร์ตเป็นหลัก อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนระยะยาว และรับความเสี่ยงได้สูง

แนะนำหาโอกาสในการทยอยเข้าสะสมหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่ราคาปรับตัวลงตามตลาด เช่น กลุ่มรับเหมา ก่อสร้าง เช่น CK, STEC และ SEAFCO รองลงมาหุ้นกลุ่มอาหาร เช่น CPF ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรง และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวตามปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ และเป็นโอกาสในการเข้าสะสม โดยมีหุ้นแนะนำสำหรับเดือนมี.ค. ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC, AP, ASK, CPF, GULF และ SEAFCO เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ