TTA จ่อหั่นเป้ารายได้-งบฯปีนี้รับผลกระทบโควิด-19-สงครามราคาน้ำมัน,"เฉลิมชัย"แจงซื้อหุ้น DIMET ลงทุนส่วนตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 17, 2020 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ลดลง จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตในปี 63 ที่ 10-15% หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไรวัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการของธุรกิจเดินเรือที่อาจจะเกิดการชะลอตัวขึ้นบ้าง จากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมที่ชะลอตัว และกระทบต่อการขนส่งจากจีน หลังจากที่จีนประกาศปิดประเทศ ทำให้การใช้บริการขนส่งชะลอตัวไป

ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยกดดันจากสงครามราคาน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะมีผลต่อการลงทุนในการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันของผู้ประกอบการ ทำให้ความต้องการใช้เรือบริการนอกชายฝั่งได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท เพราะธุรกิจเดินเรือถือว่าเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท

อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินว่าการทำสงครามราคาน้ำมันจะไม่ยืดเยื้อ และคาดว่าสิ้นสุดลงในช่วงเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ ทำให้แรงกดดันต่อทิศทางราคาน้ำมันจะผ่อนคลายลงและทำให้มีความต้องการใช้เรือขุดเจาะ และเรือสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งกลับมาเพิ่มขึ้นได้ในช่วงหลังไตรมาส 2/63 ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ของราคาน้ำมัน

ขณะที่แนวโน้มของค่าระวางเรือในช่วงไตรมาส 1/63 ยังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของอุตสาหกรรม ซึ่งในเดือนมี.ค. 63 ค่าระวางเรือซุปราแมกซ์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8,000 เหรียญสหรัฐฯ/วัน จากช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 63 ที่ 5,000-6,000 เหรียญสหรัฐฯ/วัน เพราะอุตสาหกรรมคาดว่าผลกระทบของไวรัสโควิด-19 จะมีผลกระทบในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มของค่าระวางเรือยังเพิ่มขึ้น และหากสงครามราคาน้ำมันสิ้นสุดลง จะส่งผลบวกต่อราคาระวางเรือที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 2/63 ซึ่งมองว่ากลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือจะมีกำไรได้ต่อเนื่องได้ในปีนี้

ส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรมีแนวโน้มที่ดีและยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) จะใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจ เช่น การเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายการคิดค้นสูตรปุ๋ยใหม่ การใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ การหาพันธมิตรเพิ่ม และการขยายตลาดในประเทศและตลาดส่งออก

ด้านธุรกิจร้านอาหารในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก และประชาชนในประเทศยังมีความกังวลในการออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านและใกล้ชิดกับบุคคลอื่น ทำให้การจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารทั้งร้าน Pizza Hut และ Taco Bell ลดลงและทำให้ยอดขายในสาขาลดลงตามไปด้วย แต่เริ่มเห็นการเติบโตของการสั่งผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถที่จะเข้ามาชดเชยกับจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านที่หายไปได้มากนัก ทำให้แผนการขยายสาขาของร้านอาหารทั้ง 2 เชนในปีนี้อาจจะชะลอไป และติดตามสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์ โดยปัจจุบันร้าน Pizza Hut มีจำนวนสาขา 147 สาขาทั่วประเทศ และร้าน Taco Bell มีจำนวนสาขา 6 สาขา

ด้านงบลงทุนในปี 63 บริษัทจะมีการพิจารณาทบทวนและปรับลดงบลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าจะลดงบลงทุนลงต่ำกว่าแผนที่ตั้งไว้ 1.5-2 พันล้านบาท โดยที่บริษัทยังดูความเหมาะสมของการซื้อเรือเพิ่ม หากสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งเดิมวางแผนซื้อเรือเพิ่มไว้ 1-2 ลำ แต่ในส่วนของการขยายสาขาร้านอาหารอาจจะชะลอออกไป ทำให้ใช้งบลงทุนลดลง และในส่วนของการออกหุ้นกู้จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งบริษัทจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุในช่วงปลายปี 63 ถึงต้นปี 64 และบริษัทยังมีการศึกษาแนวทางในการซื้อหุ้นคืน เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ของ บมจ.ไดเมท (สยาม) (DIMET) 129,000,000 หุ้น มูลค่า 64.5 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 16.14% เป็นการลงทุนส่วนตัว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ TTA และการเข้าซื้อหุ้น DIMET ในครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปนั่งบริหารงาน และไม่มีส่วนร่วมในการบริหารงานแต่อย่างใด โดยยังคงเป็นการบริหารงานของผู้บริหารชุดปัจจุบันที่บริหารธุรกิจของ DIMET ตามปกติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ