ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,033.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.38 จุด (+0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 64,144.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,067.51 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,024.38 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 510 หลักทรัพย์ ลดลง 577 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 356 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ แต่อ่อนกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างบวกกันราว 4-5% และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกกันราว 3-4% หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไม่จำกัดวงเงินและเวลา ซึ่งเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องชุดใหญ่ และคาดว่าเยอรมนีก็น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เหมือนกัน
สำหรับบ้านเรายังต้องจับตาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังคาดไม่ถูกว่าจะรุนแรงมาก/น้อยแค่ไหน จึงทำให้ตลาดบ้านเรารีบาวด์ได้อ่อนกว่าตลาดภูมิภาค ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยยังเป็นขาขึ้นและมีโอกาสที่จะพุ่งแรง ส่วนการที่รัฐบาลเตรียมใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ไม่ได้มีผลต่อตลาดเท่าไหร่ เพราะเป็นสิ่งที่มีการคาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว จึงไม่ได้สร้าง Surprise มากนัก พร้อมให้จับตาจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยว่าจะมีเพิ่มมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่มีแรงงานย้ายถิ่นฐานกลับต่างจังหวัดค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน โดยมีแนวรับ 1,000-970 จุด ส่วนแนวต้าน 1,070-1,100 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 6,170.27 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,387.08 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,189.49 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,105.54 ล้านบาท ปิดที่ 194.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,955.41 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท