โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" CPALL รับอานิสงส์แห่กักตุนสินค้ารับมือผลกระทบไวรัสระบาด-เริ่มซื้อหุ้นคืน 1 เม.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 26, 2020 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ประสานเสียงเชียร์ "ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) รับอานิสงส์ประชาชนแห่กักตุนสินค้าช่วงผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในไทย หนุนยอดขายพุ่งตามสาขา รวมถึงยอดขายของบมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ที่ CPALL ถือหุ้น 38% ด้วย เชื่อรับประโยชน์มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภาครัฐ อัดเงินภาคแรงงาน 5,000 บาทต่อรายต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนวงเงิน 45,000 ล้านบาท และคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าราว 23 ล้านราย ชูจุดเด่นธุรกิจมีความทนทานภาวะเศรษฐกิจขาลง ลุ้นยอดขายพลิกกลับมาเติบโตชัดเจนในครึ่งปีหลัง จับตาควบรวมซื้อกิจการ Tesco ผลักดันยอดขายชัดเจนหนุนอัพไซด์ในอนาคต

ด้าน Valuation ยังมองหุ้น CPALL เป็นบวกรับโครงการซื้อหุ้นคืน 13,000 ล้านบาท จำนวน 180 ล้านหุ้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.–30 ก.ย.63 ซื้อโดยตรงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดขายคืนภายใน 3 ปีหลังสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน

ช่วงบ่ายราคาหุ้น CPALL อยู่ที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.84% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.79%

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          กรุงศรี                          ซื้อ                          80.00
          ทิสโก้                           ซื้อ                          90.00
          เอเซีย พลัส                      ซื้อ                          80.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                    ซื้อ                          85.00
          โนมูระ พัฒนสิน                    ซื้อ                          78.00
          ธนชาต                          ซื้อ                          88.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)             ซื้อ                          81.00
          ทรีนีตี้                           ซื้อ                          89.00
          ไทยพาณิชย์                       ซื้อ                          82.00
          เมแบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)       ซื้อ                          87.00
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)      ซื้อ                          90.00

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลายบริษัทได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายรัฐบาลปิดห้างสรรพสินค้าและสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ล่าสุดฝ่ายวิจัยฯทยอยปรับลดประมาณการกำไรปีนี้กลุ่มค้าปลีก 20-30% จากประมาณการเดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองเชิงบวกกับหุ้น CPALL เนื่องจากสาขา 7-11 ตั้งอยู่นอกห้างจึงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่ราคาหุ้น CPALL เริ่มสร้างฐานได้ดีไม่ปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่เคลื่อนไหวในกรอบ 56.25-60.25 บาท จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อลงทุนในระยะยาวได้เช่นกัน

"แม้ว่าหุ้นค้าปลีกวันนี้ยังได้รับผลกระทบจากการปิดห้างและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง แต่ถ้ามองในระยะกลาง-ยาว ธุรกิจค้าปลีกรายใดที่สามารถเติบโตจากการขยายกิจการ ไม่โดนดิสรัปชั่นก็น่าสนใจซื้อลงทุน ซึ่งหุ้น CPALL นับเป็นหุ้นเด่นที่สุดของกลุ่มฯเพราะเชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการยังเติบโตได้มั่นคงในระยะกลาง-ยาว"นายกรภัทร กล่าว

ด้านบทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มีมุมมองเชิงบวกกับ CPALL เนื่องจากได้อานิสงส์ภายหลังประชาชนแห่กักตุนสินค้าหนุนยอดขายCPALL เพิ่มขึ้นและหนุนยอดขาย MAKRO ซึ่ง CPALL ถือหุ้นอยู่ประมาณ 38% และคาดจะได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ อาทิ คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าราว 23 ล้านราย วงเงินกว่า 33,000 ล้านบาท และแจกเงินภาคแรงงาน 5,000 บาทต่อรายเป็นเวลา 3 เดือน วงเงินรวม 45,000 ล้านบาท

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ระยะสั้นหุ้น CPALL มีปัจจัยสนับสนุนคือโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 13,000 ล้านบาท หรือ 180 ล้านหุ้น ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.–30 ก.ย.63 โดยจะซื้อโดยตรงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ และต้องขายคืนภายใน 3 ปีภายหลังสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน ขณะที่ CPALL จะได้ปัจจัยบวกจากทั้งยอดการเปิดสาขาและยอดขายที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับติดตามปัจจัยบวกในปีถัดไปหลังจากเข้าซื้อกิจการของ Tesco Asia

"แผนการซื้อหุ้นคืนเป็นบวกต่อหุ้น CPALL และได้ประโยชน์จากความทนทานต่อเศรษฐกิจ และยอดขายร้านยาที่เพิ่มขึ้น และได้ประโยชน์จากการบริโภคในครึ่งปีหลัง รวมถึงการดำเนินงานของ Tesco ผลักดันยอดขายในอนาคต"

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้ว่าฝ่ายวิจัยฯจะปรับลดประมาณการกำไรหุ้นกลุ่มค้าปลีกลง 0.90% และในปี 64 ลงราว 0.40% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการปิดห้างสรรพสินค้าและสถานที่ต่างๆ จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การคาดหวังฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเดิมยังมีข้อจำกัด ทั้งนี้ แนะหลีกเลี่ยงหุ้นค้าปลีกได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ยังคงเลือก "ซื้อ" หุ้น CPALL เพราะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าจำเป็นและอาหารและสาขาก็เปิดดำเนินการได้ตามปกติ พร้อมกับรับอานิสงส์จากการแห่กักตุนสินค้าช่วยประคับประคองการเติบโตในระยะสั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ