ดัชนีกลุ่มพลังงาน ปรับขึ้น 4.25% มาที่ 18,947.19 จุด เมื่อเวลา 10.10 น. ตามแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มน้ำมันอย่างคึกคัก นำโดยหุ้น PTT ปรับขึ้น 7.41% มาที่ 36.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,057.51 ล้านบาท ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 35.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 36.75 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 35.50 บาท
หุ้น PTTEP อยู่ที่ 79.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท (+5.98%)
หุ้น IRPC อยู่ที่ 2.44 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+4.27%)
หุ้น ESSO อยู่ที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.33 บาท (+6.99%)
หุ้น BCP อยู่ที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท (+6.94%)
หุ้น SPRC อยู่ที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.33 บาท (+6.85%)
หุ้น TOP อยู่ที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท (+7.04%)
หุ้น PTTGC อยู่ที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+4.32%)
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราห์ว่า เมื่อวานนี้มีรายงานว่าทางการจีนกำลังดำเนินการตามแผนในการซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองฉุกเฉิน หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักถึง 60% แล้วในปีนี้ เพราะถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก ประกอบกับการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย นอกจากนั้นเมื่อคืนนี้ทางซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก เรียกร้องให้กลุ่มมประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งรัสเซียและประเทศพันธมิตร จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกมาระบุว่าได้หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวานนี้ และมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ในวันนี้ ซึ่งเขาคาดว่าทั้งสองประเทศอาจปรับลดกำลังการผลิตราว 10 ล้านบาร์เรล หรืออาจมากถึง 15 ล้านบาร์เรล (คิดเป็นประมาณ 15% ของกำลังการผลิตทั้งโลก) เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด โดยเชื่อว่าประเทศทั้งสองจะบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามราคาในอีกไม่กี่วัน
ประเด็นดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรงถึง 24.67% ปิดที่ 25.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่นและปิโตรเคมีปรับขึ้นแรงเมื่อวานนี้ และวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานก็ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อจากประเด็นบวกดังกล่าว ทั้งจีนจะซื้อน้ำมันเข้าคลังมากขึ้น ซาอุดีอาระเบียพร้อมหันเจรจากับรัสเซียเพื่อลดกำลังการผลิตลง
ทั้งนี้ มองบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เป็น top pick ในการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโดยมีราคาเป้าหมายที่ 96.80 บาท รองลงมาเป็นบมจ.สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง (SPRC) โดยมีราคาเป้าหมาย 6.00 บาท
ด้านบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ปตท. (PTT) ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 43 บาท จากการนำบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ PTT อีก 1.6-3.0 บาท (ขึ้นกับราคา IPO) แม้เมื่อวานนี้ราคาหุ้น PTT ปรับขึ้นแรงตอบสนองประเด็นบวกนี้ไปบ้างแล้ว แต่ด้วย Valuation ที่ไม่แพง บวกกับเงินปันผลระดับ 6% ร่วมกับทิศทางราคาน้ำมันที่คาดฟื้นตัวจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ทำให้หุ้น PTT ยังน่าสนใจ