(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งในกรอบ เล็งแรงหนุนจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสในตปท.ดีขึ้น/จับตาประชุมโอเปกวันนี้

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ โดยได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯได้ส่งสัญญาณว่าการควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ตลาดฯก็เฝ้าจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียที่จะมีขึ้นในวันนี้ (9 เม.ย.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะลดกำลังการผลิต 10-15 ล้านบาร์เรล ก็ต้องรอดูว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว ซึ่งก็น่าจะทำให้ตลาดฯดีดขึ้นได้

อย่างไรก็ดี ตลาดฯมีปัจจัยถ่วงจากการ review ผลประกอบการของกลุ่มโรงกลั่น ที่ออกมาเป็น Negative ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,193-1,180 จุด ส่วนแนวต้าน 1,238 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 เม.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,433.57 จุด พุ่งขึ้น 779.71 จุด (+3.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,749.98 จุด เพิ่มขึ้น 90.57 จุด (+3.41%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,090.90 จุด เพิ่มขึ้น 203.64 จุด (+2.58%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 10.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 210.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 35.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 30.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 25.40 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7.50 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 เม.ย.63) 1,205.77 จุด ลดลง 9.18 จุด (-0.76%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7,895.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 เม.ย.63) ปิดที่ 25.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ หรือ 6.2%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 เม.ย.) อยู่ที่ -0.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.75 แข็งค่าจากวานนี้ มองบาทผันผวนน้อยลง ให้กรอบวันนี้ 32.60-32.80
• คลัง ทุ่ม 2.7 แสนล้านบาท เยียวยา "เกษตรกร" 9 ล้านครัวเรือนที่โดนผลกระทบจากพิษโควิด ด้าน ธ.ก.ส. เสนอวงเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท ส่วนเงินเยียวยาล็อตแรกเริ่มจ่าย 8-10 เม.ย.นี้ รวมกว่า 1.4 ล้านราย ย้ำหากพิษโควิดจบไว อาจพิจารณาเลิกจ่ายได้ ด้านนายกฯ ตั้งปลัดคลังคุมการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท พร้อมสั่ง "สภาพัฒน์-แบงก์ชาติ-สศค." ร่วมกลั่นกรองโครงการก่อนเสนอครม.
• กกร.คาดโควิดกระทบเศรษฐกิจหลักล้านล้านบาท รุนแรงกว่าต้มยำกุ้ง ส่งผลต่อธุรกิจ-ประชาชนทุกระดับ คาดยืดเยื้อถึง มิ.ย.นี้ ตกงาน 7.1 ล้านคน พร้อมลามถึงบริษัทใหญ่ต้องลดคน แนะประกันสังคมช่วยอุ้มค่าจ้าง 50%
• ตลท.พร้อมออกมาตรการเพิ่มทันที หากตลาดหุ้นไทยผันผวนรุนแรง หลังก.ล.ต.ไฟเขียวให้ อำนาจตัดสินใจ เผยปีนี้ต่างชาติขายหุ้นไทย ต่อเนื่องกว่าแสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะสั้นที่ใช้โปรแกรมเทรด ปลื้มดัชนีเดือนนี้ปรับขึ้นสูงอันดับ 2 ในตลาดหุ้นภูมิภาค แจงถ้ารัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง แต่แบงก์ยังเปิดทำธุรกรรม ตลาดหุ้นยังเปิดเทรด แต่อาจปรับเวลาซื้อขาย
• คมนาคม ขีดเส้น ม.ค. 64 ส่งมอบพื้นที่ให้กลุ่มซีพี เปิดไซต์งานก่อสร้าง รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน วางไทม์ไลน์ ทยอยจ่ายค่าทดแทนเวนคืน 931 แปลง และรื้อย้ายบุกรุก กว่า 1 พันหลัง พร้อมเคาะเวนคืนเพิ่ม 5 จุด ขยายเขตทางรถไฟ จาก 25 เมตรเป็น 40 เมตร ช่วงทางเข้าสุวรรณภูมิ, อู่ตะเภาแม่น้ำบางปะกง, อุโมงค์เขาชีจรรย์
• ตลท.เผยหุ้นไทยเดือนมีนาคมลดลง 28.7% น้อยกว่าเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ในอาเซียน หลังธุรกิจปรับตัวรับผลกระทบโควิด-19 ได้ดี ด้านต่างชาติยังขายสุทธิ 7 หมื่นล้านบาท และมาร์เก็ตแคปวูบ 27.7%
• สนพ.ชี้โควิดป่วนราคาน้ำมันหดตัว เศรษฐกิจโลกถดถอยกดดันการใช้ลด ด้านประเทศผู้ค้าลดกำลังส่งออกการผลิต พร้อมจับตาซาอุฯ และรัสเซียประกาศทำสงครามราคาน้ำมัน
• รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไตรมาสแรกของปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 6.7 ล้านคน ลดลง 38% หรือลดลงถึง 4.1 ล้านคนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 334,803 ล้านบาท ลดลง 39.88% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกชะลอการเดินทาง เพราะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) จะเป็นช่วงที่กระทบหนักมากที่สุด เพราะจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเลย

*หุ้นเด่นวันนี้

• MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 32 บาท เก็งกำไรได้ Sentiment บวกจากแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปเริ่มลดลง โดย MINT มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและในไทยคิดเป็น 50:50 ซึ่งรายได้จากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจโรงแรมในยุโรป คาด MINT น่าจะมีแรงเก็งกำไรคล้ายกับหุ้นสันทนาการและท่องเที่ยวในต่างประเทศที่ทยอยปรับตัวขึ้น
• STEC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท กระทบจำกัดจากโควิด-19 แม้มีการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืน แต่งานก่อสร้างยังเดินหน้าได้ตามปกติ และล่าสุดโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกใกล้เจรจากับกลุ่ม BBS (STEC ถือ 20%) แล้วเสร็จ คาดเซ็นสัญญา พ.ค.นี้ หนุนโอกาสรับงานก่อสร้างเฟสแรกเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท ด้านฐานะการเงินแข็งแกร่ง สถานะเป็น Net Cash มีงานในมือสูง 8.7 หมื่นล้านบาท เพียงพอสร้างรายได้อย่างน้อย 2 ปีข้างหน้า ขณะที่การลงทุนโครงการภาครัฐจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป