MC ยันงวดปี 62/63 กำไรโตแม้รายได้เหลือแค่ทรงตัวรับผลกระทบโควิด-19 ลุยหนักออนไลน์ดันยอดพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 22, 2020 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายได้งวดปี 62/63 (1 ก.ค.62 - 31 มิ.ย.63) คาดว่าจะเหลือเพียงทรงตัวจากปีก่อน จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 8-10% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดจุดจำหน่ายสินค้าของบริษัทไปเกือบ 90% ส่วนสาขาที่เหลือเป็นสาขาขนาดเล็กที่มียอดขายไม่มากนัก
อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่ากำไรสุทธิงวดปี 62/63 (1 ก.ค.62-31 มิ.ย.63) จะสูงกว่างวดปี 61/62 (1 ก.ค.61-31 มิ.ย.62) ที่มีกำไรสุทธิ 305.80 ล้านบาท เนื่องจากงวดครึ่งปีแรก (ก.ค.-ธ.ค.62) บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 291.37 ล้านบาท ขณะเดียวกันในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี และปรับโมเดลการจำหน่ายสินค้าให้ตอบรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 งวดปีบัญชี 62/63 (ม.ค.-มี.ค.63) คาดว่ารายได้จะทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 6-8% เนื่องจาก 2 สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสภาครัฐบาลสั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราว 26 ประเภทเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และ Community Mall ส่งผลให้ยอดขายหายไป
ขณะที่ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 งวดปีบัญชี 62/63 (เม.ย.-มิ.ย.63) คาดว่ายอดขายจะปรับตัวลดลง 50% (ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด) แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่าจะยังคงมีกำไรอย่างแน่นอน โดยบริษัทยังเน้นการบริการจัดการต้นทุน รวมไปถึงปรับรูปแบบการจำหน่ายสินค้าไปสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น อาทิ www.Mcshop.com , Lazada , Shopee เป็นต้น รวมไปถึงฝึกฝนให้พนักงานที่อยู่ในร้านค้าเดิมให้สามารถช่วยจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และทำการตลาดออนไลน์ได้อีกด้วย
ในช่วงที่ผ่านมายอดขายผ่านระบบออนไลน์เติบโตค่อนข้างมาก จากเดิมที่มียอดขายราว 20-30 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มมาเป็นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงดำเนินนโยบายเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการหาพันธมิตรในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
"ในช่วงแรกเราอาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเนื่องจากยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน แต่อย่างไรก็ตามในระยะเวลาไม่นานเราก็สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการปรับรูปแบบของสินค้า จำหน่ายสินค้าที่มีความต้องการมากขึ้น อาทิเช่น หน้ากากอนามัย และหมวกเฟซชิลด์ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตมาจำนวนมาก รวมไปถึงการปรับเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าไปยังผู้ที่มีกำลังซื้อด้วย โดยเรายังคงยืนยันว่าเรามีฐานะทางการที่เข้มแข็ง"นางชนัญญารักษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ