ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกแรงขายกระหน่ำลงเมื่อคืนนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารของออสเตรเลียอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ขาย หลังจากที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้น 1.2% ในไตรมาส 2 ขณะที่ CPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมผลกระทบของราคาพลังงานและอาหารที่มีความผันผวนนั้น ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค.มากยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 81.8 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 6,340.5 จุด หลังจากปรับตัวลงจากระดับปิดที่สูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ 6,422.3 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.9 พันล้านหุ้น มูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เดวิด แลนด์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ตลาดปิดไต่ขึ้นจากระดับต่ำจุดของวันได้ มีเพียงหุ้นบริษัทชั้นนำ 30 แห่งที่ปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยความเคลื่อนไหวในตลาดวันนี้มีทั้งซื้อและขาย ซึ่งแรงขายเกิดขึ้นเนื่องจากดาวโจนส์ร่วงลงเมื่อคืนนี้ แลนด์กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อไตรมาส 2 ที่สูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้โอกาสที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าสูงขึ้นนั้น เป็นปัจจัยลบที่เข้ามาในตลาด ผลพวงของข้อมูลเงินเฟ้อที่เห็นได้ชัดคือ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่สูงขึ้น และถือเป็นปัจจัยลบต่อบริษัทหลายแห่ง อาทิ บริษัทอลูมิน่า หุ้นอลูมิน่า ซึ่งถือหุ้นอยู่ 40% ในบริษัทร่วมทุน Alcoa-led World Alumina & Chemical (AWAC) ดิ่งลงหลังจากที่บริษัทคาดว่าจะทำรายได้จนถึงช่วงเดือนธ.ค.ประมาณ 490 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและการผลิตที่ต่ำลง โดยหุ้นอลูมิน่าปรับตัวลง 56 เซนต์ หรือ 6.9% หุ้นเหมืองแร่ชั้นนำก็มีผลต่อดัชนีเช่นกัน หุ้นบีเอชพีบิลลิตันปรับตัวลง 73 เซนต์ และหุ้นริโอทินโต ตกลง 2.3%