ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,269.54 จุด ลดลง 2.99 จุด (-0.23%) มูลค่าซื้อขายราว 35,266 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,280.02 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,267.30 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะทรงตัว โดยได้แรงหนุนกลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรม เนื่องจากคาดว่าสายการบินจะเริ่มกลับมาบินในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งมองว่าเป็นการเทรดบนความคาดหวังไปมากแล้ว ทำให้ upside ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งให้ระวังหุ้นที่ถูกผลกระทบจากการแพร่บาดไวรัสโควิด-19 จากผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี และยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร
นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทยรักษาระดับได้ค่อนข้างดี แต่สถานการณ์ยังไม่นิ่งจึงต้องระวังด้วย และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมหลายธนาคารกลาง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งทำให้อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อรอดูผลประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ทรงตัวในแดนลบ หล้งจากที่สับสนต่อข่าวที่ออกมาว่า ยา remdesivir ของ Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในเว็บไซต์เสร็จไม่นานก็มีการลบข้อความนี้ออกไป แต่ตลาดภูมิภาคก็ลดช่วงลบลงได้บ้างหล้งจากที่จีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (targeted medium-term lending facility - TMLF) อายุ 1 ปี ลง 0.20% สู่ระดับ 2.95% จากระดับ 3.15% พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องวงเงิน 5.61 หมื่นล้านหยวน (7.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะพักตัวบ้าง จากแรงขายทำกำไรสลับออกมา เพื่อรอดูการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมด้วยในสัปดาห์หน้าประเด็นการปลดล็อกดาวน์ และรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่ม Real Sector ด้วย แม้คาดว่างบฯจะออกมาไม่ดี
พร้อมให้แนวรับ 1,265-1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,280 ถัดไป 1,290-1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 5,308.87 ล้านบาท ปิดที่ 24.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,633.77 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,544.45 ล้านบาท ปิดที่ 78.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,371.31 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,248.71 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 2.00 บาท