ดัชนี FTSE 100 ปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเกือบแตะระดับ 14,000 จุด ได้ช่วยพยุงดัชนี FTSE 100 ให้ไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 19 จุด ปิดที่ 6,697.7 จุด หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวัน นายเดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "การที่นักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านบวกต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้นั้น ได้ช่วยพยุงดัชนี FTSE 100 ให้ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ ส่วนภาวะการซื้อขายในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะยังคงผันผวน เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจเข้ามาเป็นปัจจัยชี้นำ" หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากกระแสข่าวการควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นเริ่มแผ่วลง และเนื่องจากบริษัทโบรกเกอร์บางแห่งได้ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นลอนมินร่วงลง 293 เพนซ์ ปิดที่ 3,985 เพนซ์ หลังจากบริษัทลอนมินเปิดเผยว่ายอดขายพลาตินั่มอาจร่วงลงในปีนี้ เนื่องจากปัญหาด้านการผลิตและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นลอนมินลงสู่ระดับ 'hold' จากเดิมที่ระดับ 'buy' ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 18 เพนซ์ ปิดที่ 1,509 เพนซ์ จากข่าวที่ว่าบีเอชพี บิลลิตัน อาจเทคโอเวอร์กิจการบริษัทอัลโค มูลค่า 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่โฆษกของบีเอชพี บิลลิตัน ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวดังกล่าว และหุ้นรีโอตินโตร่วงลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 3,717-1/2 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'hold' จากระดับ 'buy' ส่วนหุ้นโรลซ์-รอยซ์ ร่วงลง 5-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 564-1/2 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของเอบีเอ็น แอมโร คาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทโรลซ์-รอยซ์อาจชะลอตัวลงเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เอบีเอ็น แอมโร ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโรลซ์-รอยซ์ลงสู่ระดับ 'hold' จากเดิมที่ระดับ 'buy'