(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์เล็กน้อย หลัง Valuation แพง-เกาะติดบจ.ทยอยประกาศงบฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 7, 2020 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากที่ได้ปรับฐานไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจากความกังวลสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน และเมื่อวานนี้ตลาดในภูมิภาคเอเชีย ตลาดในยุโรปต่างฟื้นตัวขึ้นได้แต่ตลาดบ้านเราปิดทำการไป

ส่วนตลาดในสหรัฐฯวานนี้ได้ปรับตัวลงอันเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดีในเรื่องการจ้างงานภาคเอกชน และในวันศุกร์นี้ก็จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 20 ล้านตำแหน่ง และอัตราว่างงานก็จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลง

ด้านตลาดในเอเชียเช้านี้ปรับฐานเล็กน้อย ส่วนตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่า Valuation แพงแล้วเมื่อคิดเทรด P/E ปีนี้ที่ 16.5 เท่า ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานวันนี้ก็คงจะทรงตัว พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/63 ที่วันนี้จะประกาศออกมาหลายตัว อาทิ ADVANC, IRPC เป็นต้น

พร้อมให้แนวรับ 1,268 จุด ส่วนแนวต้าน 1,285 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,664.64 จุด ลดลง 218.45 จุด (-0.91%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,848.42 จุด ลดลง 20.02 จุด (-0.70%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,854.39 จุด เพิ่มขึ้น 45.27 จุด (+0.51%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 150.83 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 16.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.76 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 22.68 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย และตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันวิสาขบูชา

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 พ.ค.63) 1,278.63 จุด ลดลง 23.03 จุด (-1.77%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,603.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 พ.ค.63) ปิดที่ 23.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 57 เซนต์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.) อยู่ที่ -1.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.45 อ่อนค่าจากเย็นวันอังคาร วิตกตัวเลขเศรษฐกิจแต่ละประเทศ คาดกรอบวันนี้ 32.30-32.50
  • ผู้ส่งออกรุกตลาดโลก ยืนยันอาหารในประเทศเพียงพอ "ซีพีเอฟ" เผยสหรัฐชะลอส่งออกไก่ เพิ่มสต็อกภายในประเทศ จีนรับรองโรงงานไก่ไทยเพิ่ม หวังนำเข้าป้อนความต้องการ สิงคโปร์ยอมผ่อนกฎนำเข้า ป้องกันอาหารขาดแคลน สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ชี้โควิดดันความต้องการอาหารกระป๋องพุ่ง
  • กลุ่มพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท.ชงภาครัฐปรับผังเมืองเอื้อเศรษฐกิจแบบบีซีจี กำจัดปัญหาบางจังหวัดห้ามตั้งโรงงานในพื้นที่สีเขียว หนุนแจ้งเกิดโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เปิดทางมีส่วนร่วมถือหุ้น ลุ้น กกพ.คลอดทีโออาร์รับซื้อควิกวิน 100 เมกะวัตต์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจลดผลกระทบโควิด-19 ระบาด
  • นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในระหว่างวันที่ 27 เมษายน-5 พฤษภาคม 2563 พบว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศในยุโรป และประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง และต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 18.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 15.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 12.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
  • นายอนันต์ หวังชิงชัย รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.เตรียมเปิดประกวดราคา (ประมูล) โครงการงานจ้างก่อสร้างซ่อมแซมพื้นผิวทางอากาศยานด้วยวัสดุปอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ (เฟส) ที่ 1 พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 3.95 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) วงเงินก่อสร้างประมาณ 1,300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิวในการรองรับเครื่องบิน รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัย และแก้ไขปัญหาเรื่องผิวทางอย่างถาวร ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างรายละเอียดการประมูล คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน และเริ่มปรับเปลี่ยนพื้นผิวได้ประมาณเดือนตุลาคม 2563 นี้ โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปีครึ่ง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • DIMET-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ไดเมท (สยาม) (DIMET)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 466,923 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.65 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปีนับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (20 เม.ย. 2563) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 20 พ.ค. 2563 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 18 ก.พ. 2565
  • MTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 50 บาท เก็งกำไรงบ Q1/63 คาดกำไรสุทธิทำ New high ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ ประมาณ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%qoq และ 20%yoy จากยอดสินเชื่อยังขยายตัว และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง รวมถึงมี Soft loan ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน
  • BTS (เคทีบีฯ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 13 บาท ประเด็นสำคัญในการแนะนำ BTS คือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงมาก และการผ่อนคลายมาตรการของภาครัฐฯ เริ่ม 3 พ.ค. จะทำให้คนกลับมาทำงานหรือมีกิจกรรมที่มากขึ้น เป็นบวกต่อหุ้นรถไฟฟ้าทั้งสองตัว (BTS-BEM) ข้อมูลล่าสุดของกรมขนส่งทางรางระบุ มีประชาชนใช้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งในเขต กทม.เฉลี่ย เกือบ 400,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากสภาวะการณ์ช่วงวันที่ 1 พ.ค.63 มีเฉลี่ยเพียง 189,000 คน ส่วนผลกระทบจากโควิด-19 ตัวเลขผู้โดยสารเดือน เม.ย. คาดจะลดลงเฉลี่ย -70% ถึง -80% YoY ขณะที่รายได้ O&M ไม่กระทบ หลังมาตรการ Lockdown ผ่อนคลาย บริษัทอาจใช้วิธีเพิ่มความถี่ขบวนรถ ซึ่งมองเป็นบวกต่อรายได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ