นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้แต่อยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจาก Valuation ตลาดแพง และมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรออกมาในระหว่างทางได้ แต่ตลาดฯก็มีปัจจัยที่จะต้องจับตาในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% หากปรับลดจริงก็จะเป็นบวกต่อตลาดฯ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากที่ดาวโจนส์ปรับตัวลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจาก Stat News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวด้านสุขภาพของสหรัฐรายงานว่า ผลทดลองวัคซีนของบริษัท Moderna ยังไม่ชัดเจนพอที่จะประเมินประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 แต่เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้ขยับขึ้นมา
พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,320 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจน์ปิดที่ 24,206.86 จุด ร่วงลง 390.51 จุด หรือ -1.59% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,922.94 จุด ลดลง 30.97 จุด หรือ -1.05% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,185.10 จุด ลดลง 49.73 จุด หรือ-0.54%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 21.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 74.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.49 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.29 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.55 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 พ.ค.63) 1,309.95 จุด เพิ่มขึ้น 23.42 จุด (+1.82%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 902.66 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 พ.ค.63) ปิดที่ 32.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 2.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 พ.ค.) อยู่ที่ 0.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.88 แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค นลท.รอลุ้นผลประชุมกนง.บ่ายนี้ มองกรอบ 31.85-32.00
- นายกฯลั่นตัดสินใจเอง นำ "การบินไทย" ยื่นฟื้นฟูผ่านศาลล้มละลาย มั่นใจฟื้นฟูสำเร็จ "ศักดิ์สยาม" เผยคลอดแผน ก่อน มิ.ย. เคาะ 15 รายชื่อทีมผู้ทำแผนฟื้นฟู คาดหลุดแผนฟื้นฟูใน 1 ปี ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ เปิดเทรด "หุ้นบินไทย" ตามปกติ
- "ทริส" หั่นเรทติ้ง "การบินไทย" สู่ระดับ "จังค์ บอนด์" ที่ C ขณะแนวโน้มเครดิตส่อเหลือ D หากผิดนัดชำระหนี้ ด้านกรมส่งเสริมสหกรณ์เตรียมนัด 82 สหกรณ์ กำหนดท่าทีเจรจาผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย มั่นใจผลกระทบแค่เล็กน้อย
- นักลงทุนสถาบัน แห่ซื้อ "บอนด์ไทย" เผย 7 วันซื้อสุทธิกว่า 2 แสนล้านบาท กดบอนด์ยีลด์ลดวูบ รุ่น 2 ปี เหลือ 0.62% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย คาดเก็งข่าว กนง. หั่นดอกเบี้ยวันนี้อีก 0.25% ด้าน "นักเศรษฐศาสตร์" ฟันธงดอกเบี้ยไทยยัง "ขาลง" เหตุแนวโน้มเศรษฐกิจโตต่ำคาด แม้ไตรมาสแรกดีกว่าที่ประเมินไว้
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(EIC SCB) ระบุจากการที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2563 หดตัวที่ -1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YOY) นั้น นับว่าได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคแล้ว (technical recession) หลัง GDP แบบ % เทียบไตรมาสต่อไตรมาส หรือ QOQ sa หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และมีแนวโน้มการหดตัวที่น่าจะรุนแรงขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 รวมถึงการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและมีความเสี่ยงด้านต่ำค่อนข้างมาก EIC SCB จึงยังคงมุมมองการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25 bps ในไตรมาสที่ 2 นี้ และมีโอกาสค่อนข้างสูงที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps ในการประชุม วันที่ 20 พ.ค. ขณะที่ทาง EIC SCB จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- BTS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 13.5 บาท จำนวนผู้โดยสารทยอยเพิ่มขึ้นหลังจากที่ภาครัฐผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 และคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเร่งตัวขึ้นอีกในช่วงปีหลังเนื่องจาก BTS จะเปิดเส้นทางเดินรถสายสีเขียวเพิ่มอีก 4 สถานีในช่วงเดือน มิ.ย. (สถานี ม.เกษตร ถึง สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ)
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท แม้ผู้บริหารจะคาดว่ารายได้ปีนี้อาจหดตัว 10-15% แต่มีแนวทางบริหารจัดการต้นทุน โดยใน 3 ไตรมาสที่เหลือจะลดต้นทุนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ กำไร Q1/63 ที่ดีกว่าคาดมาจากค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลงอย่างมีนัย ในแง่จำนวนผู้ใช้บริการเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในเดือน พ.ค. หลังเริ่มทยอยผ่อนคลายการล็อกดาวน์ แต่ลูกค้าต่างชาติ Fly-in ต้องรอการเปิดน่านฟ้าและคาดใช้ว่าจะเริ่มทยอยกลับมาในครึ่งปีหลัง โดยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี -15% Y-Y และฟื้นตัว +21 Y-Y ปีหน้า
- TASCO (หยวนต้า) "เก็งกำไร" คาดผลประกอบการ Q2/63 จะออกมาเด่น จากราคายางมะตอยที่เร่งขึ้นหลังจีนกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจ และกำไรจากสต็อกตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ แนวโน้ม H2/63 จะได้ผลดีจากการเร่งลงทุนของภาครัฐ โดยกรมทางหลวงจะเร่งเซ็นสัญญาก่อสร้างการขยายถนนจาก 4 เลนเป็น 6 เลน และจุดพักรถบรรทุกวงเงินรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทางเทคนิคแนวต้าน 3.00 บาท และ 3.10 บาท แนวรับ 2.90 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 2.78 บาท