นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 394.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.70 ล้านบาท หรือ 41% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 82.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.91 ล้านบาท หรือราว 30% และขาดทุนลดลงอยู่ที่ 7.99 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 24.78 ล้านบาท สะท้อนความสามารถในการพลิกฟื้นธุรกิจได้ตามแผนการที่วางไว้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอาหาร 246.99 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 61.68% ของรายได้รวม และมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากธุรกิจอาหารแปรรูปและธุรกิจผลไม้อบแห้ง จำนวน 17.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 10.83 ล้านบาท หรือราว 170% จากไตรมาสเดียวกัน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มของธุรกิจผลไม้อบแห้งเน้นการส่งออกซึ่งเป็น Growth Engine ใหม่ในกลุ่มนี้ สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีรายได้ 144.20 ล้านบาท คิดเป็น 36.01% ของรายได้รวม และมี EBITDA จำนวน 17.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.20 ล้านบาท หรือราว 32.30% จากไตรมาสเดียวกัน ซึ่งกลุ่มนี้ยังคงเติบโตและมีแนวโน้มการเริ่มกลับมาใช้เพิ่มขึ้นจาก Delivery Trend
"ผลจากการปรับกลยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารมีการเติบโตอย่างโดดเด่น จากการเข้าไปลงทุนในธุรกิจผลไม้อบแห้ง ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สร้างยอดขายเข้าพอร์ตรายได้กว่า 107 ล้านบาท ขณะที่ ธุรกิจร้านอาหาร A&W และ คิทเช่น พลัส หยุดให้บริการ dine-in ตามมาตรการภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ส่งผลกระทบต่อรายได้ และเมื่อมองจากแนวโน้มของธุรกิจจึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายไปทาง delivery มากขึ้น"นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ GLOCON ตั้งเป้าหมาย จะพลิกกลับมาทำกำไรโดยเร็วที่สุด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายปี 2563 มีรายได้รวม 1,760 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 1,172 ล้านบาท